วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ระดับความซวยเวลานั่งรถไฟคนเดียว

จากการเดินทางหลายๆครั้ง พบว่าตัวเองช่างโชคไม่ดีเอาซะเลย
เลยพอจะสรุปเป็นระดับความซวยได้ดังนี้

1. ได้นั่งหน้าห้องน้ำ - นี่เป็นความซวยขั้นแรก แต่ก็ทำให้หงุดหงิดได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเวลากินข้าว
2. ได้นั่งริมหน้าต่างฝั่งที่แดดร้อน - ฮือๆ ก็ทนร้อนไปตลอดทางจนกว่าแดดจะหมดนั่นแหล่ะ
3. ได้นั่งกับคนขี้เหร่หรือคนจรจัด ผมเผ้ารุงรัง ตัวเหม็น
4. ขี้เหร่ไม่พอ ชวนเราคุยซะอีก แถมพูดมาก เราตอบคำเดียว พี่แกคุยไปครึ่งชั่วโมง
5. รถไฟชนกัน - ถือว่ายังโชคดีอยู่ ไม่เคยเจอถึงขั้นนั้น

ใครเจอครบ 5 ข้อ แสดงว่าซวยสุดๆ

วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รีวิว Don't be afraid of the dark กับ Fright Night

เพิ่งดู Don't be afraid of the dark จบ รู้สึกชอบมากๆ

ก่อนดู แอบนิสัยเสีย กรอไปดูตอนจบก่อน แล้วก็รู้สึกว่า
เชอะ ... ก็แค่หนังผี มีผีออกมาหลอกเด็ก

แต่พอได้ดูตั้งแต่ต้นแล้ว เนื้อเรื่องจริงๆของหนัง น่าสนใจกว่าหนังผีซะอีก

เรื่องก็มีอยู่ว่า มีครอบครัวนึงซื้อบ้านใหม่ แล้วเด็กหญิง เกิดอยากรู้อยากเห็น
เลยไปเปิดฝาเตาผิง ซึ่งเป็นฝาปิดตาย

จากนั้นก็มีผี เป็นตัวประหลาดเล็กๆ ออกมาหลอกเด็ก
เด็กบอกพ่อแม่ บอกเท่าไหร่ พ่อแม่ก็ไม่เชื่อ
ไปจ้างจิตแพทย์มาคุยกับเด็ก นึกว่าเด็กกำลังจินตนาการ

ตอนจบเด็กรอด ... แต่ ... เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า บางครั้งผู้ใหญ่ก็ควรฟังเด็กบ้าง
ไม่ใช่ตั้งธงไว้ว่าเด็กโกหกเสมอ

อีกเรื่องนึงที่แอบสะใจ ก็คือเรื่อง Fright Night ส่วนหนึ่งของเรื่องก็คือ
วัยรุ่นบอกแม่ว่า คนข้างบ้านเป็นผีดิบ ... แต่ ... แม่เชื่อ
และพวกเขาก็พากันสู้จนทุกคนปลอดภัย

ในเรื่อง Don't be afraid of the dark กว่าคนเป็นพ่อแม่จะฟังลูก ก็สายเกินไปเสียแล้ว

เรื่องนี้เป็นหนังผี หนังสยองขวัญ และให้บทเรียนกับผู้ปกครองด้วย ขอแนะนำ ....

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รีวิว The Hangover 1 & 2

เพิ่งมีโอกาสได้ดู The Hangover เลยเลือกดูภาค 1 ก่อน แล้วดูภาค 2 ทีหลัง

ความรู้สึกในการดูภาค 1 กับภาค 2 ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
พูดง่ายๆก็คือ ภาค 2 ห่วย ถ้าเทียบกับภาค 1

โดยส่วนตัว คิดว่าเสน่ห์ของ hangover ภาค 1 คือหนังขาย เนื้อหา บรรยากาศ ความสนุก
โดยหลีกเลี่ยงฉากเซ็ก ตลอดทั้งเรื่อง มีฉากโชว์นมแค่แว๊บเดียวเท่านั้น

หนังประสบความสำเร็จ โดยไม่ต้องทะลึ่ง ลามก ขายเซ็ก อะไรเลย
เป็นความสำเร็จที่มาจากพล็อตล้วนๆ

คนดูสนุกไปกับการเดาว่า เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แล้วเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
เป็นหนังที่ดูได้ทั้งครอบครัว เด็ก 10 ขวบก็ดูได้ เพราะไม่มีฉากเซ็กเลย

>>>>> แล้วเกิดอะไรกับภาค 2 <<<<<<

ภาค 2 copy ทุกอย่างจากภาค 1 และใส่ฉากเซ็กเข้าไปอย่างเกินงาม
เช่นฉากโชว์ใส้กรอก ฉากบาร์ระบำโป๊
ทำให้ภาค 2 นี้ ไม่เหมาะที่จะพาครอบครัวดู จำกัดเฉพาะ 18+ ไปเลย สำหรับภาคนี้

เนื้อหาก็ copy มาจากภาคแรก ปริศนาก็ไม่ปะติดปะต่อ ไม่น่าสนใจเท่าภาคแรก

ส่วนฉากถ่ายในเมืองไทยทั้งหมด จุดที่สวยงาม เจริญก้าวหน้า อย่างมาบุญครอง ก็ไม่มี
เลือกถ่ายแต่ ชุมชนแออัด

ยอมรับว่า กทม มีชุมชนแออัด 80% บางที่เราเห็นจนชินตาแล้วก็เลยรู้สึกว่าปรกติ
แต่ที่ดูในหนัง รู้สึกว่า มันจะดูเก่ากว่าความเป็นจริงไปเยอะ
เหมือนมองไปทางไหนก็มีแต่แหล่งเสื่อมโทรม

หลายๆส่วนในหนัง บิดเบือนไป
เช่น การขับเรือจากกทม ไปภาคใต้ใน 5 ชม
หรือนั่งรถสองแถวจากกทมไปเชียงใหม่ใน 2 ชม

นอกจากนี้ น่าแปลกที่คนไทยในหนัง พูดอังกฤษได้หมดทุกคน
นี่ถ้าไปดาวอังคาร จะเจอเอเลี่ยนพูดอังกฤษไหมเนี่ย

ทำให้ภาค 2 ชูจุดขาย เรื่องแหล่งเสื่อมโทรม และแหล่งบริการทางเพศของเมืองไทย
จนดูไม่มีเสน่ห์ไปเลย เมื่อเทียบกับภาค 1 ที่หลีกเลี่ยงการนำเสนอฉากเซ็ก และเน้นที่เนื้อหาของหนังจริงๆ

ที่สำคัญ ฉากเปิดเรื่อง ที่ copy ภาค 1 มาทั้งหมด ทำให้หนังดูไร้สมอง
เพราะองค์ประกอบทุกอย่างในภาคแรก แสดงให้เห็นถึงความฉลาดของบทหนัง

แต่ภาค 2 เลือกที่จะ copy ทุกอย่าง ความฉลาดของบทหนัง จึงเทียบไม่ได้กับภาค 1

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข้อควรระวังในการใช้ netbook และ external harddisk

กลไกการทำงานของ harddisk คือ จะมีแผ่นกลมๆ หมุนอยู่ตลอดเวลา และมีหัวอ่าน เพื่ออ่านเขียนตำแหน่งต่างๆบนแผ่นกลมๆ (นึกถึงเครื่องเล่นแผ่นเสียง)

จะเกิดอะไรขึ้น หาก harddisk กำลังอ่านเขียนข้อมูล แล้วเราวาง harddisk บนพื้นด้วยการกระแทก ?

หัวอ่านจะสะดุด และก่อความเสียหายให้กับจานกลมๆ หลังจากนั้น เวลาอ่านข้อมูลตำแหน่งที่เสียหาย
ฮาร์ดดิสจะอ่านเขียนได้ช้าลง และอ่านข้อมูลผิดพลาด (นึกถึงภาพ VCD แผ่นเป็นรอย เวลาเปิดดูกับ TV)

ข้อมูลที่ฮาร์ดดิสอ่านได้จะเป็นข้อมูล error นานๆเข้า ชิพควบคุมการอ่านเขียนฮาร์ดดิส จะทน error ไม่ได้ จนพังไป หลังจากนั้น harddisk จะเสียงดังติ๊กๆๆ เสียบกับโน๊ตบุค ก็จะมองไม่เห็นฮารดดิส

คำแนะนำในการใช้ external harddisk มีดังนี้
1. เพื่อให้ฮาร์ดดิส ไม่เสียหาย ควรวาง external harddisk ให้เบาที่สุด อย่าให้เกิดการสะเทือน
2. ก่อนจะดึงสาย usb ออกจากโน๊ตบุค ให้คลิกไอคอนมุมล่างขวาที่ชื่อว่า safty remove hardware
หลังจากกด safety remove ฮาร์ดดิสจะหยุดอ่านเขียน และเก็บหัวอ่านเข้าที่ และไฟฮารดดิสจะดับ
จากนั้นเราก็สามารถดึงฮาร์ดดิสออกได้

หากเราดึงฮาร์ดดิสออกระหว่างฮาร์ดดิสกำลังหมุนอยู่ หัวอ่านจะคาอยู่บนจาน
เมื่อเราพกฮาร์ดดิสไปไหนมาไหน หัวอ่านจะสะเทือน ทำให้เกิดรอยบนจาน
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮาร์ดดิสเสีย

สำหรับ netbook ก็เหมือนกัน เนื่องจากความบาง ทำให้หากเราวางเน็ตบุคแรงๆ จะทำให้ฮาร์ดดิสสะเทือนไปด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ฮาร์ดดิสเสีย
เพราะฉะนั้น เวลาจะวางเน็ตบุค จึงควรค่อยๆวาง เพื่อให้ฮาร์ดดิสไม่สะเทือน

วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รีวิว The Traveler (2010)

เรื่องย่อของหนังเรื่องนี้ก็คือ อยู่ดีๆ มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาที่โรงพัก สารภาพว่าได้ฆ่าคน 6 คน
ตำรวจเลยสอบสวน แต่ระหว่างสอบสวนก็มีคนตายทีละคนๆ ....

ด้วยเรื่องย่อเท่านี้ กับชื่อ Val Kilmer ทำให้อยากดูหนังเรื่องนี้ขึ้นมา
เดาๆว่าคงจะออกแนวสยองขวัญ สืบสวน

แต่พอดูไปถึงกลางเรื่อง ก็เริ่มรู้ว่า มันเป็นแนวสยองขวัญจริงๆ แต่บวกเรื่องผีเข้าไปด้วย

(เนื้อเรื่องทั้งหมด ขอไม่พูดถึง เพื่อคงความเป็นปริศนาให้ไปหาดูเอาเอง)

หลังจากดูจบ ...
ดูเรื่องนี้จบทีแรกก็ไม่ชอบ แต่พอคิดๆดูแล้ว เหมือนกับคนสร้างจะบอกว่า

"ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายโจทย์หรือจำเลย ศาลก็ให้ความเป็นธรรมเท่าๆกัน"
ศาลไม่สนหรอกว่า คุณเป็นคนดี หรือคนชั่ว แค่ลงโทษตามสิ่งที่คุณทำ

imdb ให้คะแนน 4/10 แต่ผมให้ 7/10

-2 ไม่มีวิวสวยๆให้ดู
-1 ฉากโหด รุนแรงเกินไป ไม่เหมาะสำหรับเด็ก

+1 เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย ตัดต่อได้ดี ไม่รู้สึกเบื่อเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ
+1 ปริศนาและความน่าสงสัยของเรื่อง ชวนให้น่าติดตาม และคาดเดาได้ยาก
+1 เนื้อเรื่องให้แง่คิดดีเหมือนกัน
+1 สนุกพอๆกับเรื่อง Devil ของ M Night

อีกข้อนึง เรื่องนี้น่าจะใช้ชื่อว่า The Drifter หรือ Mr. Nobody มากกว่า
ชื่อ The Traveler มันโหลมากๆ

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

รีวิว Atom N570

หลังจากซื้อ Happy 2 มาแล้ว และทดลองใช้มาสักพัก มีข้อเปรียบเทียบระหว่าง N570 กับ N270 ดังนี้

CPU 2 ตัวนี้ แบ่งเป็น thread ละ 800 MHz
โดย N570 มี 4 thread และ N270 มี 2 thread

1. ทดลอง Besweet แปลงไฟล์เสียง ac3 เป็น mp3

N570 ใช้ 1 thread
N270 ใช้ 1 thread

นั่นหมายความว่า CPU ทั้ง 2 ตัวใช้เวลา encode เท่ากัน

2. ทดลอง AugoGK แปลง VCD เป็น Xvid เฉพาะไฟล์ภาพ ไม่รวมเสียง

N570 ใช้ 3 thread
N270 ใช้ 2 thread

หมายความว่า N570 ทำงานเร็วกว่า N270 เพียง 50% เท่านั้น

3. ทดลอง Autox264 แปลง VCD เป็น mp4

N570 ใช้ 4 thread
N270 ใช้ 2 thread

เวลาในการ encode
N270 ใช้เวลา 40 นาที
N570 ใช้เวลา 20 นาที

ไชโย N570 ทำงานเร็วเป็น 2 เท่าของ N270 แล้ว

อย่างน้อยก็สบายใจหน่อยที่ N570 ทำงานเร็วเป็น 2 เท่าของ N270

แต่ .... เงื่อนไขที่ N570 จะวิ่งเต็ม speed ก็คือ โปรแกรมจะต้องรองรับด้วย
ถ้าโปรแกรมไม่รองรับ มันจะวิ่งแค่ thread เดียว มีค่าเท่ากับ N270

แถมท้าย N570 ดูหนัง 1080p ได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ติดตั้ง MPC Home Cinema
2. ติดตั้ง Halii Media splitter (ช่วยให้ cpu ทำงานครบ 4 thread)
3. ใน option ของ MPC ส่วนของ internal filter ให้ disable ให้หมดทุกตัว
เพื่อให้ MPC หันมาใช้ Halii แทน
4. เลือก output เป็น vmr-9 window

ทำครบ 4 ข้อแล้ว ก็จะดู 1080p ได้ ปากตรงกับเสียง
แต่ ... ไฟล์ blueray ขนาด 25 GB ดูแล้ว กระตุก ปรับยังไงก็กระตุก

สรุปว่าดู 1080p ได้ในไฟล์ที่บิทเรทไม่เกิน 5000 Kbps

ยังมีอีกข้อที่ทำให้ N570 น่าซื้อกว่า C-50
ก็คือ screen resolution 1024 x 600 ทำให้อ่านตัวหนังสือได้สบายตา ไม่ต้องจ้องใกล้หน้าจอ
ถ้าเป็น C-50 resolution 1280 x 720 ตัวหนังสือจะเล็กมาก เพราะขนาดจอ 10 นิ้วเท่ากัน ทำให้ต้องเพ่งมากขึ้น

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

หลักการเลือกซื้อเน็ตบุค

1. ความสวยของเครื่อง

เพราะเราต้องใช้มันไปอีกนาน การได้มองเครื่องสวยๆ ช่วยให้เราภูมิใจที่ได้ซื้อมันมา
โดยส่วนตัว ชอบ acer กับ samsung โดยเฉพาะสีชมพูของ samsung สวยมากๆ

2. ความบางของเครื่อง

ไม่รู้ว่าตัวเองโรคจิตหรือเปล่า แต่คงไม่ซื้อเน็ตบุคแน่ๆ ถ้าเครื่องมันหนา
ยังไงก็ขอเลือกที่บางที่สุดไว้ก่อน มันให้ความรู้สึกว่า มันเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง
ไม่ใช่ว่าใครจะทำได้ง่ายๆ ที่จะให้เครื่องบางขนาดนี้

ในแง่ความบาง samsung, asus, lenovo สอบตก เพราะแบ็ตใหญ่ จนตูดยื่น
ในขนะที่ acer ทำได้เนียนที่สุด แบ็ตยื่นออกจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

3. อายุแบตเตอรี่

ส่วนใหญ่เน็ตบุคสมัยนนี้จะใช้ได้นาน 8 ชม ทั้ง acer, asus, hp
แต่มี samsung คุยว่าใช้ได้ 10 ชม (แต่ต้องแลกด้วยตูดใหญ่)

4. ขนาดหน้าจอ

เน็ตบุคจอ 10 นิ้ว ถ้าเป็น N570 มักจะมีความละเอียดหน้าจอ 1024 x 600
แต่ถ้าเป็น AMD C-50 ความละเอียดจะเพิ่มขึ้นเป็น 1280 x 720

ความละเอียดสูงหมายถึง ตัวหนังสือเล็กลง
ดังนั้น 1024 x 600 จะมีตัวหนังสือใหญ่กว่า 1280 x 720 ซึ่งทำให้อ่านง่ายกว่า

ถ้าหากแคร์เรื่องขนาดตัวหนังสือ คงต้องจำใจตัด C-50 ออกไป

5. เล่นเกม

C-50 ชนะขาด เพราะมีชิพ ATI เล่นเกม และดูหนัง Full HD ได้ราบรื่นกว่า N570

6. encode video

จากที่อ่านในเน็ต N570 มีความสามารถ compress file หรือ encrypt ไฟล์ สูงกว่า C-50 มากทีเดียว
คือมีพลัง CPU ที่เหนือกว่า

7. คีย์บอร์ด

ถ้าเน้นเล่นเกมรถแข่ง คีย์ที่สำคัญสุด คือลูกศรซ้ายขวา บนล่าง
เน็ตบุคบางรุ่น ลืมจุดนี้ เช่น โตชิบ้า เวลากด ลูกศร จะเผลอกดชนกับขอบๆ คีย์บอรด์ ทำให้เล่นไม่สะดวก
ในแง่ปุ่มลูกศร lenovo กดง่ายสุด, ตามด้วย samsung, acer, hp

8. ปุ่ม shift

หลายยี่ห้อเริ่มเข้าใจแล้วว่าไม่ควรตัดปุ่มชิพขวา ปัจจุบัน เกือบทุกยี่ห้อ จัดปุ่ม shift ขวามาเต็มขนาด

9. ขนาดปุ่มคีย์บอร์ด

โดยส่วนตัวไม่ชอบคีย์บอร์ดของ acer รู้สึกว่าปุ่มมันใหญ่เกินไป กลัวกดผิด
ลองกดของ samsung, lenovo ค่อนข้างชอบพอสมควร

10. ความง่ายในการอัพเกรดฮาร์ดดิส

หลายๆรุ่น ต้องแยกชิ้นส่วนเครื่องเลย ถึงจะเข้าไปเปลี่ยนฮาร์ดดิสได้

11. ปลั๊กไฟ

มีเน็ตบุคบางรุ่น ที่พัฒนาปลั๊กไฟให้มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ก็ช่วยให้น่าซื้อมากขึ้น

12. ค่าซ่อม

ในปีแรกไม่มีปัญหา เพราะยังอยู่ในประกัน แต่ปีต่อไป หากเน็ตบุคเสีย ค่าอะไหล่ ค่าซ่อม ของศูนย์บริการเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถตรวจสอบได้ ด้วยการแกล้งโทรไปที่บริษัทผู้ผลิต บอกเขาว่า ทำเครื่องตก เมนบอร์ดเสีย อยากจะซื้อเมนบอร์ดรุ่นนี้มาเปลี่ยน มีขายไหม

ผมเคยลองถามยี่ห้อหนึ่ง ถึงค่าเมนบอร์ดของโน๊ตบุคที่ซื้อตั้งแต่ปี 2006 เขาตอบว่า 9000 บาท
ในขณะที่อีกยี่ห้อหนึ่ง เขาตอบว่า เขาไม่ขายเมนบอร์ดโน๊ตบุค แต่ลูกค้าสามารถนำเมนบอร์ดที่เสีย มาเปลี่ยนเป็นเมนบอร์ดใหม่ได้ โดยคิดค่าเปลี่ยนแค่ 2000 บาท

ผมประทับใจยี่ห้อนี้มาก แต่เนื่องจากไม่ได้ค่าโฆษณา จึงไม่อาจบอกได้ว่า โน๊ตบุคยี่ห้อไหน มีนโยบายดีๆแบบนี้

13. ราคา

จริงๆแล้ว นี่เป็นปัจจัยแรกๆที่ผมคำนึงถึงเลย แต่เนื่องจากการแข่งขันในตลาดเน็ตบุคมีสูง
เกือบทุกยี่ห้อจึงลดราคาแข่งกันที่ 8500 - 9500 บาท
ดังนั้น ราคาจึงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการเลือกเน็ตบุคเวลานี้

....

เน็ตบุคแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น
ใครจะซื้อรุ่นไหน ก็อยู่ที่ความชอบส่วนตัวละกันครับ

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

รีวิว cowboys & alien กับ final destination 5

เห็นยอด box office ของ cowboys & alien ในอเมริกา แล้วก็ละเหี่ยใจ ยอดไม่ถึง 100 ล้าน (ทุนสร้าง 160 ล้าน)

ดูผิวเผินเหมือนหนังเรื่องนี้มันห่วยมากๆ ยอดก็เลยต่ำ แต่ในความเห็นของผม ผมรอดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่กลางปี พอรู้ว่าเข้าฉาย 29 กค ก็ดีใจมาก ว่าใกล้จะได้ดูแล้ว แต่ปรากฏว่า เข้าฉายในไทย 28 สค ช้ากว่าอเมริกา 1 เดือน ไม่ใช่แค่เมืองไทย ทั่วโลกฉายช้ากว่าอเมริกา 1 เดือน

ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้จัดจำหน่าย ถึงให้ประเทศอื่นช้า 1 เดือน มันเลยดูเหมือนคนไม่ค่อยดูเรื่องนี้กัน
ถ้าหากเข้าจัดฉายพร้อมกันทั่วโลก ยอด 300 ล้าน ทั่วโลก ไม่น่าจะพลาด

ได้อ่านรีวิวในเว็บพันทิพย์ มีแต่คนบอกว่าเรื่องนี้ห่วย ผมว่าเขาดูหนังไม่เป็นมากกว่า
เรื่องนี้มีความสนุก ความตื่นเต้น ระดับเดียวกับเรื่อง Predator ที่อาโนลด์เล่น

การที่ยอด boxoffice ต่ำ ไม่ได้หมายความว่าหนังห่วย
ถ้าจะติ ก็คงติแค่ 30 นาทีแรก ที่หนังค่อนข้างน่าเบื่อ
แต่หลังจากนั้น หนังเดินเรื่องได้ดี และมีปริศนาให้ติดตามตลอด
กว่าเราจะเข้าใจว่า พระเอกเก่งมาจากไหน ก็ตอนใกล้ๆจะจบเรื่อง
แล้วมันก็สมเหตุสมผลด้วย ว่าทำไมบทนี้ต้องเป็น เดเนียล เครก (หน้ายังกะโจร)

สำหรับคนดูหนังไม่เป็น เรื่องนี้คงห่วย
แต่สำหรับผม เรื่องนี้เขาทำมาดีมาก ไม่มีการตีหัวคนดู

อีกเรื่องคือ final destination 5
ถึงตอนนี้แล้ว เริ่มรู้สึกเบื่อ คือ ภาค 4 กับ ภาค 5 จะเน้นฉากตื่นเต้นสยองขวัญ
มีบทพูด สลับกับบทอุบัติเหตุ ผู้สร้างอาจจะไม่คิดอะไรมาก แต่ในความเห็นของผม เขาเลือกวิธีสร้างหนังได้ผิดไปหน่อย

ในหนังชุดนี้ ผมชอบ final destination 1 กับ 3 มากที่สุด

เหตุผลที่ชอบ
1. ดนตรีต้นเรื่อง สร้างความน่ากลัว ได้ดี
2. อารมณ์ร่วม ในฉากเปิดเรื่อง ทำได้ดี
3. ตอนจบ เป็นฉากจบ 2 ครั้ง คือ รอดจากฉากจบครั้งแรก ไปเจอฉากจบครั้ง 2

ภาค 4 ทั้งเรื่องดูแย่ แต่ฉากจบทำได้ดี ขอชม

ภาค 5 นี่ เปิดเรื่อง ตื่นเต้นดี ภาพดูยิ่งใหญ่ เหมือนดู 2012
อุบัติเหตุต่างๆในเรื่อง ก็ทำฉากลุ้นได้ดี

แต่ ... ตอนจบ ยิงกันในร้านอาหาร อืม นีมันเรื่อง final destination นะ ไม่ใช่ mission impossible จะได้มีฉากยิงกันเป็นฉากจบ

สำหรับภาค 5 ส่วนที่ผิดหวัง ก็คือตอนจบนี่แหล่ะ

แล้วเรื่องความสมเหตุสมผลอีก คิดดูสิ พระเอกมีนิมิตเห็นสะพานถล่ม ก็เลยวิ่งลงสะพานทัน
แล้วตอนจบ ตัวเองนั่งเครื่องบิน แล้วเจอคนฟูมฟาย ตะโกนว่า เครื่องบินกำลังจะระเบิด
แล้วดันไม่เชื่อเขา ดันนั่งบนเครื่องบินจนเครื่องระเบิด
คนที่กลัวตาย และมีเซ้นส์มาตั้งแต่ต้นเรื่องเนี่ยนะ จะนั่งรอจนเครื่องระเบิด
มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย เลยทำให้ฉากจบภาค 5 ดูไม่เนียน และไม่น่าจดจำเลย

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

มือใหม่หัดเล่น ipad

มีโอกาสยืมเครื่อง ipad 1 ของชาวบ้านมาใช้
ที่กดบ่อยๆ ก็มีบราวเซอร์ safari

ข้อดีที่น่าประทับใจของ safari ก็คือ
1. เวลาหมุนหน้าจอ การแสดงผลก็จะปรับตาม
2. เลื่อนหน้าจอขึ้นลง โดยเอานิ้วเขี่ย
3. คลิกลิงค์โดยเอานิ้วจิ้ม
4. พิมพ์ข้อมูลได้บ้าง แต่ช้ากว่าคีย์บอร์ดธรรมดา
5. ซูมหน้าจอ โดยใช้ 2 นิ้ว

แต่ข้อเสียที่ไม่ชอบมากๆ ก็คือ
ผมมีเว็บที่ต้องการเข้า แล้วลิงค์ก็ยาวมาก ยกตัวอย่าง

http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9540000091915

ในการพิมพ์ชื่อเว็บใน safari ถ้าคุณพิมพ์ถูกก็รอดตัวไป แต่ถ้าคุณพิมพ์ผิด เช่น พิมพ์ว่า

http://www.manager.co.th/CBiZRevew/ViewNews.aspx?NewsID=9540000091915

ผมพยายาม เอานิ้วชี้จิ้มที่คำว่า CBiZRevew ในตำแหน่ง Revew เพื่อจะพิมพ์ตัว i แทรกเข้าไปเป็นคำว่า Review ที่ถูกต้อง

ความพยายามครั้งที่ 1 :  จิ้มแล้ว แต่เคอเซอร์ไปหยุดตรง R แต่เราต้องพิมพ์ตัว i หลังตัว v
ไม่เป็นไร กดปุ่มลูกศร ซ้ายขวา ขยับเคอร์เซอร์ก็ได้
มองคีย์บอร์ดของ ipad เฮ้ย แล้วปุ่ม ลูกศรซ้าย ขวา อยู่ไหนฟะ ไม่มีเหรอว่าเนี่ย
แล้วตูจะขยับเคอร์เซอร์ได้ไง
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เราจะลองจิ้มใหม่ คราวนี้จะจิ้มให้อยู่หลังตัว v เป๊ะ ๆ

ความพยายามครั้งที่ 2 : แง ๆ จิ้มยังไง มันก็ไม่อยู่หลังตัว v

ฮือๆ มีแค่ปุ่ม Backspace บนคีย์บอร์ด นั่นหมายความว่า เราต้องลบจากตัวสุดท้าย ไปยังตำแหน่งที่เราต้องการ แล้วค่อยเริ่มพิมพ์ใหม่ตั้งแต่จุดนั้น ไปจนตัวสุดท้าย

โอ้แม่เจ้า รักจะพิมพ์ชื่อเว็บบน ipad นี่ ความพยายามสูงจริงๆ


สรุปข้อเสียหลักๆ ก็คือ
1. พิมพ์ช้ากว่าคีย์บอร์ดจริง เนื่องจากพิมพ์สำผัสไม่สะดวก
2. เวลาพิมพ์ผิด อาจเหงื่อตกได้ เพราะต้องลบจากตัวสุดท้าย ไปตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข
แล้วพิมพ์ใหม่หมด

เอ ... หรือว่าเรายังใช้ไม่เป็น

มีอีก ๆ ๆ ข้อเสียข้อที่ 3 ถ้าเทียบกับ ie 8 ซึ่งมีหลาย tab
ipad มีหน้าต่างเดียว ไม่มี tab เวลาจะเปลี่ยนดูหน้าอื่น ต้องกด 2 ครั้ง
ในขณะที่ ie8 กดครั้งเดียว

และ ie8 สามารถเปิด 2 เว็บพร้อมกัน เพื่อเปรียบเทียบดีไซน์ได้
แต่ ipad เปิดได้ทีละหน้า ไม่สามารถเปิดทีละ 2 เว็บ ดูพร้อมๆกันได้


อืม ยังมีข้อชม อีก 2-3 ข้อ
1. แบ็ต 10 ชม จริง ใช้ตั้งนาน แบตแทบจะไม่ลดเลย เยี่ยมมาก
2. ตัวเครื่อง และหน้าจอ ดูแข็งแรงดี จิ้มเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นรอย ถือว่าผลิตออกมาดี สมราคา
3. ระยะเวลาในการเปิด และปิดเครื่อง เร็วดี ระบบ stand by ก็ทำงานดีเยี่ยม ไม่กินไฟเลย

แต่ถึงยังไง ผมก็ชอบเน็ตบุคอยู่ดี อย่างน้อยก็ไม่เหงื่อตกเวลาพิมพ์ชื่อเว็บผิด

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

รีวิว i-mobile 5220 กับคุณสมบัติที่เหนือกว่ามือถือราคา 2 หมื่น

ช่วงเดือนมีนา ได้มีโอกาสซื้อ i-mobile 5220
รุ่นนี้ ราคาเปิดตัว 4000 บาท แต่ตอนซื้อ Lotus ลดเหลือ 2 เครื่อง 3990 บาท ก็เลยแชร์กับคนที่เดินผ่าน ซื้อกันคนละเครื่อง

1. เล่นเกมบอยได้

คุณสมบัติที่เทพมากๆ ของรุ่นนี้ก็คือ มันเล่น เกมบอย ได้
โดยโหลด rom ของ game boy advance หรือ nintendo จากในเน็ต
แล้วเอามาเล่นในมือถือรุ่นนี้ได้

เท่าที่ลองเล่น super mario bro 3 ก็เล่นได้ สนุกดี
สามารถ save และ load เกม ได้ ทำให้ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น
สามารถเล่นต่อจากจุดที่เรา save จากครั้งก่อนได้

ตอนเป็นเด็ก เมื่อ 20 ปี ก่อน เวลาจะเล่นมาริโอ ต้องเสียบเครื่องเล่น กับ TV
ทุกวันนี้เล่นในมือถือได้ รู้สึกชอบมากๆ

แต่ก็มีข้อติอยู่บ้าง คือ ปุ่มกดมือถือมันแข็งกว่า ปุ่มกด game boy จริงๆ ทำให้ค่อนข้างกดยาก แต่ก็ดีกว่าไม่มีเล่น

2. กล้องก็เทพใช้ได้

ตามคู่มือ กล้องรุ่นนี้เป็น 5 ล้าน พิกเซล แต่เท่าที่ลองถ่ายดู ถ้าถ่ายที่ 3 ล้าน ภาพจะไม่แตก และดูเนียนกว่า
มี face detection, smile shutter แต่เท่าที่ลองใช้ ก็ยังไม่เห็นความแตกต่างเท่าไหร่
คุณสมบัติที่ใช้ได้จริงๆ ก็คือ auto focus , macro mode ก็ใช้ได้ดีพอสมควร
นอกจากนี้ ยังถ่ายภาพ panorama ได้ด้วย คือ กดชัตเตอร์ 1 ครั้ง แล้วเลื่อนกล้องไปทางขวา
มือถือจะบันทึกภาพที่ 2 และภาพที่ 3 แล้วเอามาต่อกันเป็นภาพเดียว ซึ่งเท่าที่ลอง test ดู ก็ทำออกมาได้เนียนพอสมควร (ชอบมาก)
นอกจากนี้ยังมี option ให้ปรับ iso มี night mode เยอะแยะไปหมด

ส่วนคุณภาพของภาพที่ถ่ายออกมา ภาพที่รายละเอียดไม่เยอะ จะถ่ายออกมาสวย
ถ้าลายละเอียดเยอะ เช่น ภาพนาข้าว มีต้นข้าวจำนวนมาก ภาพจะเบลอไปเลย
เหมือนเกินความสามารถของตัวประมวลผล ที่จะบันทึกภาพที่มีรายละเอียดสูงขนาดนั้น

แต่เท่าที่ลองถ่ายรูปคน รูปทั่วไปในระยะ 2 - 10 เมตร ภาพก็สวย คมชัดดี และ focus ก็ถูกต้อง
ถือว่ากล้องของรุ่นนี้ ดีกว่ามือถือระดับราคา 2 พัน ทั่วๆไป

3. ดู TV และบันทึกรายการได้

ตั้งเวลาบันทึกได้ด้วย อะไรจะเทพขนาดนั้น มือถือราคา 2 หมื่น ยังทำไม่ได้เลย


นี่เป็น 3 คุณสมบัติหลักๆ ที่คุ้มที่สุดของมือถือรุ่นนี้
บางช่วง Lotus จะนำมาลดเหลือ 2000 บาท ใครสนใจก็ลองๆ เดินดูนะครับ อาจจะยังมีขายอยู่

คิดว่าคงมีมือถือไม่กี่รุ่นในท้องตลาด ที่เล่นเกมบอยได้
ตั้งแต่ใช้มา 4 เดือน ก็ยอมรับว่าคุ้มมากๆ และไม่ผิดหวังเลยที่ซื้อรุ่นนี้

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หลักการเลือกซื้อโน๊ตบุค

เนื่องจากเป็นคนชอบของดีราคาถูก เวลาซื้อก็เลยมองแต่โน๊ตบุคที่ระดับราคาไม่เกิน 14000 บาท
เครื่องพวกนี้จะเป็นเครื่องที่ราคาถูกที่สุด ในแต่ละยี่ห้อ มีหลักในการเลือกซื้อดังนี้

1. CPU

cpu ที่ใช้ในโน๊ตบุคราคาถูก ส่วนมากจะเป็น
AMD : P360, E-350, C-50, P540
INTEL : B940, P6300, i3-380M

แล้ว CPU พวกนี้ ต่างกันอย่างไร

- ความเร็ว : ต่างกันที่ความแรงของ CPU เช่น ในการดูหนังความละเอียดสูง 1080p CPU บางตัว จะทำได้สบายๆ แต่บางตัวจะทำงานช้ากว่า

เรียงตามลำดับจากเร็วสุดไปช้าสุดดังนี้ :
i3-380M : 55
P6300 : 98
B940 : 114
P540 : 156
P360 : 174
E-350 : 298
N550 : 377
C-50 : 420

ในระดับราคาเท่ากัน เลือก P360 จะเร็วกว่า E-350 ถึง 2 เท่า
อ้างอิงจาก http://www.notebookcheck.net/Mobile-Processors-Benchmarklist.2436.0.html

- อัตราการกินไฟ
CPU โน๊ตบุค ส่วนใหญ่จะกินไฟไม่เกิน 35 วัตต์
การกินไฟมีส่วนสำคัญ ยิ่งกินไฟน้อยก็ยิ่งดี เพราะแบ็ตเตอรี่จะใช้ได้นานขึ้น
CPU ที่กินไฟสูง แบตจะใช้ได้แค่ 2 ช.ม. แต่ CPU ที่กินไฟต่ำ แบตจะใช้ได้ถึง 7 ช.ม.

เรียงตามลำดับระยะเวลาแบตเตอรี่ จากมากไปน้อย
C-50 : กินไฟ 9 วัตต์ ใช้งานหนักๆได้ 3 ชม ใช้งานทั่วไปได้ 7 ชม ... อ้างอิง
E350 : 18 วัตต์ : หนัก 2.30 ชม : ทั่วไป 5 ชม ... อ้างอิง
i3-350M : 10 - 25 วัตต์ : หนัก 2 ขม : ทั่วไป 4 ชม ... อ้างอิง
P320 : 25 วัตต์ : หนัก 1.10 ชม : ทั่วไป 2.30 ชม ... อ้างอิง

ในการเลือก CPU ผมเลือก ความแรง กับอัตราการกินไฟเป็นสำคัญ
ข้อมูลพวกนี้ ถามคนขายไป เขาก็ไม่รู้
เราต้องเข้า google แล้วหารีวิวอ่านเอาเอง

2. ปุ่ม Shift ขวา

เวลาเลือกซื้อโน๊ตบุค ผมจะมองปุ่ม Shift ขวา ก่อนเป็นอันดับแรก
ถ้าปุ่มนี้สั้น ผมจะไม่เอารุ่นนั้นเลย ถ้าปุ่มนี้ยาว ก็ OK จะได้พิมพ์คล่อง ๆ

ลองสังเกตุดูนะครับ โน๊ตบุคสมัยนี้ชอบตัดปุ่ม Shift ขวา ให้สั้นลง แต่มันทำให้พิมพ์ลำบากครับ

3. ลำโพงข้างเดียว

จะบ้าเหรอ เสียเงินตั้งเป็นหมื่นให้ลำโพงมาข้างเดียว
มีบางรุ่นของ acer, compaq ที่ใจร้ายมาก ใส่ลำโพงมาข้างเดียว
ก่อนซื้อ ลองเปิดเพลง แล้วเงี่ยหูฟัง ว่ามี 2 ลำโพงหรือเปล่า ไม่งั้นจะมาเจ็บใจทีหลัง

4. ช่องเปลี่ยนอะไหล่หลังเครื่อง

บางรุ่นเปลี่ยนฮาร์ดดิสได้ยากมาก ต้องแกะฝาหลังออกหมด
บางรุ่นก็เปลี่ยนง่ายๆ ขันน๊อตไม่กี่ตัว ก็ลองพลิกดูหลังเครื่องก่อนซื้อดู ว่าชอบแบบไหน

5. wifi, lan, bluetooth

บลูทธ หากคุณชอบนั่งรถทัวว์ และอยากเล่นเน็ตผ่านมือถือได้ ควรซื้อโน๊ตบุคแบบที่มีบลูทูธ
อย่างไรก็ตาม การตั้งค่ามือถือ และโน๊ตบุค ให้แชร์อินเตอร์เน็ต ค่อนข้างยาก
ถึงยังไง มีบลูทูธมาด้วยดีกว่าไม่มี

ส่วน Lan ถ้าได้แบบ 10/100/1000 ก็จะดีขึ้น เพราะความเร็วจะมากกว่า 10/100
ส่วน wifi ถ้าได้แบบ b/g/n ก็จะเร็วกว่า b/g

6. พอร์ท hdmi

พอร์ทนี้ใช้สำหรับเสียบกับ LCD TV หากคุณชอบดูหนัง มีพอร์ทนี้ด้วย จะช่วยให้ดูหนังจากโน๊ตบุคผ่านจอ LCD TV ได้


ถ้าเจอโน๊ตบุค คุณสมบัติดีทั้ง 6 ข้อ แต่ลดราคาเหลือ 9900 ละก็ รีบคว้าได้เลย เพราะว่านั่นคือของดีราคาถูกครับ

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

วิธีลดพุงอย่างได้ผล

มันก็มีหลายวิธีที่ช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักได้ หลักๆก็คือ กินน้อยๆ อดมื้อกินมื้อ เป็นต้น

อันนี้เป็นวิธีที่ผมใช้เพื่อควบคุมน้ำหนัก

1. ตื่นสายมากๆ

เช่น ตื่นบ่าย 2 ช่วยให้ผ่านมื้อเช้า กับมื้อเที่ยง โดยไม่ต้องกินอะไร
วิธีนี้ ต้องเข้านอน ตี 2 - ตี 4
สำหรับคอหนังแล้ว นั่งดูหนังก่อนนอน ตั้งแต่เที่ยงคืน ถึงตี 4 ก็ช่วยให้นอนดึกได้

2. เน้นเครื่องดื่ม ขนม ผลไม้ แทนอาหาร

- มื้อเช้า : กาแฟเย็นถุงนึง
- มื้อเที่ยง : ข้าวกล่อง
- มื้อเย็น : ขนม ผลไม้ ยาคูล บีทาเก้น

3. เปลี่ยนเวลากิน

- มือเช้า : 10 โมงเช้า กาแฟ
- มื้อเที่ยง : 5 โมงเย็น ข้าวกล่อง
- มื้อเย็น : 3 ทุ่ม ขนม ยาคูล

เพราะถ้ากินตามปรกติ จะเผลอกิน 4 มื้อ ทำให้อ้วนง่าย ยกตัวอย่าง

- มื้อเช้า : 8 โมง
- มื้อเที่ยง : เที่ยง
- มื้อเย็น : 5 โมง
- มื้อดึก : 3 ทุ่ม

การยืดเวลา มื้อเช้า เที่ยง เย็น ออกไปอีกสัก 2 ชั่วโมง ช่วยให้ตัดมื้อดึก ออกไปได้

4. งด ไข่
- ถ้ากินไข่ วันละ 2-3 ฟอง ยังไงน้ำหนักก็ขึ้น งดเหลือสัปดาห์ละฟองก็พอ
- กาแฟแก้วเดียวเท่านั้น ถ้ากินวันละ 2 - 3 แก้ว น้ำตาล ไขมัน ก็จะเยอะ อ้วนได้อีก กินวันละแก้วก็พอ
- ทุเรียน ขนมเค้ก ขนมหวาน งดหมด
- กินเจบ้าง สัปดาห์ละ 3 วัน ช่วยลดเนื้อสัตว์ลงได้

5. กินเผ็ด
- ข้าวผัดกระเพราเผ็ดๆ กินเป็นประจำ ช่วยให้อัตราเผาผลาญไขมันในร่างกายสูงขึ้น

6. ทนร้อน
วันไหนร้อนจัดๆ อย่าเปิดแอร์ อย่าเปิดพัดลม นั่งให้เหงื่อตกไปเลย ช่วยละลายไขมันได้ดี

7. ไปเป็นบุรุษไปรษณีย์
บุรุษไปรษณีย์ต้องขับมอเตอร์ไซด์ตากแดดตลอดทั้งวัน จะสังเกตุได้ว่า บุรุษไปรษณีย์แต่ละท่านหุ่นเพรียวทั้งนั้น

8. ทำกิจกรรมนอกบ้าน
หากิจกรรมต่างๆนอกบ้านทำ ถ้านั่งอยู่บ้านทั้งวัน ก็ไม่แคล้วจะเปิดตู้กับข้าว
การทำงานนอกบ้าน ช่วยให้โอกาสในการกินลดลง

...

วิธีที่แนะนำทั้งหมดนี้ ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องใช้เงิน

แค่ควบคุมการใช้ชีวิตของตัวเอง ก็ช่วยให้เราลดน้ำหนักได้

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ข้อดีของการเป็น Anonymous Account

ได้รับอีเมล์ใน junk mail หัวข้อว่า "ID:374-0180 Apple AppStore Order Notification‏"

ก็นึกในใจ 555555
1. ตูไม่ได้ใช้ iphone ไม่มีทางไปสั่งของที่ไหนได้หรอก
2. เวลาเล่นเน็ต ไม่เคยกรอกชื่อจริง ที่อยู่จริง ถึงสั่งของไป แกก็เก็บตังค์ฉันไม่ได้หรอก
3. ไม่มีบัตรเครดิตใช้ เลยไม่มีเลขจะกรอก

แหม อยากรู้จริงๆว่าคำสั่งซื้อนี้ จะมาเก็บเงินได้ยังไง
แล้วใครหน้าไหนเอาอีเมล์ของตูไปสั่งซื้อเนี่ย

เนื้อความในอีเมล์

Dear Apple AppStore Customer,

Your Order ID:374-0180 (order information) has been successfully canceled.

You can also contact Apple AppStore Customer Service or visit online for more information.

บ๊ะมันก็เป็นอีเมล์ยืนยันว่ายกเลิกคำสั่งซื้อแล้วนี่
งั้นก็สบายใจได้ เราไม่โดนเก็บตังค์แน่ เพราะคำสั่งซื้อยกเลิกแล้ว

ชื่อผู้ส่งก็ AppStore@apple.com มาจาก apple แน่ๆ

แต่ก็ยังสงสัย เอ๊ะ แล้วตูสั่งซื้ออะไรไปวะ คลิกเข้าไปดู order information ก่อนดีกว่า

ทันใดนั้นเอง ก็สังเกตุว่าลิงค์สั่งซื้อสินค้า ไม่ใช่ลิงค์ของ apple แต่ลิงค์ไปเว็บไหนก็ไม่รู้

เหอๆ ถ้าคลิกไปคงจะติดไวรัสแน่นอน แหม คนปล่อยไวรัสสมัยนี้ เข้าใจสร้างกลอุบายหลอกคนให้คลิกเข้าไปติดไวรัสจริงๆ

เห็นหลายๆท่านเล่นอินเตอร์เน็ต โดยกรอกชื่อจริง ที่อยู่จริง วันเกิดจริง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน และไม่ใช้แสตนอิน

บางทีการกรอกข้อมูลปลอมก็ช่วยปกป้องภัยต่างๆจากอินเตอร์เน็ตได้นะครับ

เราไม่จำเป็นต้องกรอกจริงไปทั้งหมด เลี่ยงๆ หลบๆ บ้าง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อภัยจากอินเตอร์เน็ตครับ

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

คอมพิวเตอร์ทำลายอะไรบ้างในรอบ 15 ปี ที่ผ่านมา

ในฐานะที่เล่นคอมพ์มา 15 ปี ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เป็นผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์ ขอสรุปข้อเสียที่เกิดขึ้นดังนี้

1. หายนะจาก mp3 - ตั้งแต่ยุค windows 95 คือ ตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา มีคนซื้อคอมพิวเตอร์กันมากขึ้น และมี mp3 เกิดขึ้น นับจากนั้นมา ยอดขายเทป และ CD ก็ตกลงเรื่อยๆ ทุกวันนี้ยังกู่ไม่กลับ แต่ mp3 ยังอยู่

ในเกือบทุกอุปกร์อิเล็กโทรนิค ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์, มือถือ, เครื่องเสียง, เครื่องเสียงในรถยนต์
สามารถเล่นไฟล์ mp3 ได้หมดแล้ว
คำถามสำหรับค่ายเพลงก็คือ ในเมื่อคุณทำลาย mp3 ไม่ได้ คุณจะหาประโยชน์จากมันได้อย่างไร ?

2. หายนะจาก hispeed internet - นับตั้งแต่มี hispeed internet ในเมืองไทย ยอดขาย dial-up internet ก็หดตัวลงเรื่อยๆ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตรายเล็ก เจ๊งกันเป็นแถว คงเหลือแต่ ผู้ให้บริการรายใหญ่

หลังจากมี hispeed internet ก็เริ่มมี bit torrent เกิดขึ้น เกิดการดาวโหลดหนังเพลง ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อไปอีก ทำให้ยอดขายแผ่น DVD แท้ และแผ่น DVD ผี หดตัวลง แต่ยอดขายแผ่น DVD-R เพิ่มขึ้น ... ฮา

ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก hispeed internet มากที่สุด คงจะเป็นธุรกิจหนังนี่แหล่ะ
เพราะเมื่อคนดาวโหลดได้ เขาก็จะไม่ซื้อ และไม่เช่า ร้านเช่าวีดีโอ ก็เลยพลอยหงอยไปด้วย
ร้านขาย DVD แผ่นแท้ก็หงอยไปด้วย

3. หายนะจากการเปลี่ยนเทคโนโลยี - จากม้วน VDO มาสู่ VCD > DVD > Blueray > MKV

ผมเชื่อว่าผู้จำหน่าย dvd ในไทย ยังมึ่นๆกันอยู่ ว่าควรขาย DVD ต่อไป หรือขาย Blueray ดี
ถ้าเน้นขาย Blueray ราคาเครื่อง Blueray ในเมืองไทยก็ยังแพงอยู่
ถ้าเน้นขาย DVD เวลาลูกค้าเอา DVD ไปเปิดกับจอ LCD ภาพก็ไม่คมชัด

ในขณะที่ทางฝั่งเทคโนโลยี ได้คิดค้นไฟล์ MKV สำหรับ ดูหนัง hidef กับจอ LCD
มีเครื่องเล่น HD Player มากมาย ที่สามารถเล่นไฟล์ MKV ได้ นอกจากนี้เครื่องเหล่านี้ยังใช้ดู Youtube ได้ด้วย

ช่วงเปลี่ยนเทคโนโลยีนี่แหล่ะ ที่เป็นช่วงที่คนขายก็ยังมึน ว่าทำไมยอดขาย DVD ถึงตก
ร้านเช่า DVD ถึงปิดตัวกันเป็นแถว

ผมเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไง แต่ในเมืองนอกที่เจริญแล้ว ถ้าใครโหลดบิทนี่ เขาส่งจดหมายมาเรียกเก็บตังค์ถึงบ้านได้เลย รู้สึกว่ากฏหมายเขาเข้มงวด และมีวิธีตรวจจับได้อยู่เหมือนกัน

แต่สำหรับเมืองไทย ถ้าทำเข้มงวดขนาดนั้น ก็จะกระทบกับยอดใช้ hispeed internet ซึ่งเป็นเค้กก้อนโตของผู้ให้บริการ

ความโชคร้าย เลยตกอยู่กับเจ้าของหนังและเพลง


เห็นไหมครับ ...คอมพิวเตอร์แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ทำลายอะไรไปหลายอย่างเหมือนกัน ...

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ข้าวผัดกระเพรา เละ ๆ

1. มันเกิดขึ้นได้เมื่อคุณใช้ไฟอ่อน
2. มันเกิดขึ้นได้เมื่อคุณใส่เครื่องปรุงมากเกินไป แต่ใส่ข้าวแค่นิดเดียว
3. มันเกิดขึ้นได้เมื่อคุณใส่ซีอิ้วมากๆ น้ำมันมากๆ ถ้าหากซีอิ้วซึมเข้าไปในเม็ดข้าว ซีอิ้วจะไม่โดนความร้อน และมันจะกึ่งสุกกึ่งดิบอยู่ในเม็ดข้าว ไม่ว่าจะใส่ซอส หรือน้ำปลาตาม รสชาติก็จะไม่ออก เพราะมันเละตั้งแต่ซีอิ้วแล้ว

สิ่งสำคัญในการใส่ซีอิ้วลงในข้าวผัดคือ ซีอิ้วต้องสุก ถ้าซีอิ้วไม่สุก มันจะเละ
จะใส่ซีอิ้วตอนเจียวหมูก็ได้ หรือใส่ซีอิ้วหลังปรุงเครื่องปรุงเสร็จแล้วก็ได้

อยากกินผัดไทยแท้ ๆ แต่ร้านดันปิด เลยสั่งข้าวผัดกระเพรา แล้วก็ได้ข้าวผัดกระเพราเละ ๆ มาดูต่างหน้า รสชาดกลืนไม่ลงจริง ๆ

ต้องรอจนถึงค่ำ กว่าร้านผัดไทยอีกร้านจะเปิด (หวังว่าวันนี้จะไม่ปิดนะ)

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

Scream 4 ก็คุ้มค่าตั๋วเหมือนกัน

มาเที่ยว กทม เดือนนึง ได้เวลากลับขอนแก่น ก่อนกลับเลยขอดูหนังในโรงสักวัน
ได้รอบ 3 ทุ่ม 20 ที่เดอะมอลท่าพระ นับเพื่อนร่วมโรงได้ประมาณ 10 คน เป็นหนังเรื่อง scream 4 พากย์อังกฤษ

ดูจบก็รู้สึก คุ้มค่าตั๋ว การเดาตัวคนร้าย ก็เดายากเหมือนเดิม

พล็อตจะออกไปทางภาค 2, 3 คือ หาเหตุผลให้ฆาตรกรออกมาอาละวาด
แรงจูงใจในการก่อเหตุ ก็ยังเป็นแรงจูงใจเดิมๆ (ซึ่งฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่)

มีฉากติดตลกอยู่ในนั้นด้วย ตำรวจ 2 คน เฝ้าบ้านคอยระวังเหตุการณ์ร้าย
ตำรวจก็คุยกันว่า ปรกติตำรวจทั้ง 2 นาย มักจะตายซะก่อน ยกเว้น ตำรวจคนนั้นจะชื่อ บลูซ วิลลิส (5555)

เรื่องนี้มีดาราร่วมแจมเยอะพอสมควร ทั้ง Anna Paquin, Kristen Bell, Emma Roberts, Marley Shelton, Anthony Anderson

David Arquette เล่นเป็นตัวประกอบเหมือนเดิม ตามคนร้ายไม่เคยทันเลย นายคนนี้

ก่อนดูนึกว่า Neve Campbell จะเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ปรากฏว่ายังคงเป็นตัวเดินเรื่องหลักเหมือนเดิม

แอบสะดุ้งทุกครั้งที่เจอฉากตกใจ (สะดุ้งไป 6-7 ครั้งได้)

เนื้อเรื่อง ok คุ้มค่าตั๋ว ใครยังไม่ดู ก็ไปดูซะนะครับ ก่อนหนังจะออกจากโรง
ดูในโรงได้บรรยากาศการดูหนังจริงๆ สนุกและตื่นเต้นกว่าดูอยู่บ้านเยอะ

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

ถ้าเราคิดว่าขายได้ เราก็ขายได้

วันก่อนเดินห้างเล็กๆ ห้างนี้มี 4 ชั้น
รู้สึกหิวน้ำ เลยเดินๆดูว่ามีร้านไหนน่าสนใจมั่ง
เจออยู่ร้านนึงที่ชั้น 1 เป็นร้านน้ำผลไม้ปั่น แก้วละ 15 บาท คนยืนต่อคิวกัน 4-5 คนเลย

เนื่องจากเป็นคนไม่ชอบรอ ก็เลยเดินต่อ
จนไปถึงชั้น 3 ก็เจอร้านน้ำผลไม้ปั่นอีกร้านนึง แต่ร้านนี้คนเงียบมาก ไม่มีใครซื้อเลย
มองเข้าไป ก็มองไม่เห็นคนขายอยู่ในร้าน

ลองเดินเข้าไปใกล้ๆ เจอสาวน้อย 1 คน นั่งอยู่ ก็สั่งไป ขอสับปะรดปั่นแก้วนึง น้องก็ตอบว่า ไม่มีค่ะ
ก็เลยมองป้าย ดูอีกทีว่ามีอะไรให้สั่งมั่ง แล้วก็เลยสั่งอีกที ขอน้ำส้มปั่นแก้วนึง คำตอบยังเหมือนเดิม ไม่มีค่ะ

อืม ... คิดในใจ ตูจะสั่งอะไรดีน๊า มันถึงจะมีขายในร้านนี้
ถ้าสุ่มเลือกไปอีก แล้วเขาตอบว่าไม่มี ก็จะรู้สึกเซ็งอีก
เอ ... หรือว่าน้องคนขาย ไม่ชอบขี้หน้าเรา สั่งอะไรไป ก็จ้องจะตอบ No
งั้น ... เราเดินหนีดีกว่า ถ้าโดนตอบ No อีกเป็นครั้งที่ 3 เราคงทำใจไม่ได้

...

ร้านทั้ง 2 ร้าน ขายสินค้าชนิดเดียวกัน ราคาเท่ากัน
ร้านแรกคนแน่น ต่อคิวซื้อ แต่ร้านหลัง คนไม่ซื้อ

จริงๆ ร้านที่ 2 ไม่ได้ด้อยไปกว่าร้านแรก ถ้าเขาเตรียมผลไม้ให้ครบทุกชนิดตามป้าย
ผมก็คงจะได้อุดหนุน และเมื่อผมยืนตรงนั้น คนอื่นที่สนใจก็คงจะกล้าเข้ามาซื้อ
ถ้ามีลูกค้าเข้ามาซื้อต่อเนื่อง ร้านนั้นก็จะขายดี

การที่เรายึดติดกับเมื่อวานว่า คนไม่ค่อยซื้อ
แล้วเราไม่เตรียมผลไม้ให้พร้อมที่จะขาย
มันก็เลยเป็นลูกโซ่ต่อๆไป ทำให้เงียบแล้วเงียบอีก

ส่วนตัว ผมคิดว่า ถ้าเขาทำตัวกระฉับกระเฉงสักนิด มีของครบ ราคาถูกกว่าร้านแรกนิดหน่อย
มีเมนูให้เลือกเยอะกว่า เขาน่าจะเอาชนะร้านแรกได้ ... ถ้าเขาลุกขึ้นสู้

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554

วิธีทำข้าวผัดกระเพราอย่างถูกวิธี

หลายครั้งที่สั่งข้าวผัดกระเพราตามศูนย์อาหาร แล้วรสชาดไม่ได้ความ
นี่คือคำแนะนำนะครับ เผื่อพ่อครั่วมือใหม่จะลองทำตามบ้าง เพื่อปรับปรุงรสชาด
(ออกตัวไว้เลยว่าผมก็ปรุงอาหารไม่เก่งเหมือนกัน แต่สำหรับเมนูโปรด ข้าวผัดกระเพรา ผมพอทำได้)

1. ใส่น้ำมันพืช คนให้ทั่วกะทะ (ใช้ไฟแรง)
2. ใส่หมู แล้วคนด้วยจะได้ไม่ติดกะทะ พอหมูใกล้สุก ใส่กระเทียมกับพริกลงไป
3. พอหมูสุกแล้ว ใส่ข้าวลงไป (ควรเป็นข้าวแข็ง ไม่ใช่ข้าวหอมมะลิ เพราะข้าวจะติดกะทะ)
อย่าเพิ่งคน ทิ้งไว้อย่างนั้นแหล่ะ ถ้าคนแล้วข้าวจะติดกะทะ

ขั้นตอนที่ 4 - 7 ใช้เวลา 15 วินาที
4. ใส่น้ำมันหอย 1 ช้อน
5. ใส่น้ำตาล 1 ช้อน
6. ใส่ซอส 2 หยด ใส่น้ำปลา 3 หยด
7. ใส่ใบกระเพรา

8. พอใส่เครื่องปรุงครบแล้ว ก็คนให้เข้ากัน สัก 30 วินาที แล้วรีบยกลง ตักใส่จาน

ลองชิมดู คุณจะพบว่าอร่อย ข้าวไม่ติดกะทะ

หลักสำคัญของสูตรนี้คือ
1. ไฟแรง ช่วยให้ข้าวไม่ติดกะทะ ช่วยให้เครื่องปรุงสุก ถ้าใช้ไฟอ่อน เครื่องปรุงไม่สุก รสชาดไม่ออกเลย
2. น้ำตาลช่วยให้รสชาดกลมกล่อม
3. น้ำปลากับน้ำมันหอย ช่วยให้เผ็ดๆเค็มๆ อร่อย
4. การรีบใส่เครื่องปรุง รีบคน รีบยกลง ช่วยให้เครื่องปรุงยังอยู่ในกะทะ
ถ้าเราคนนานเกินไป เครื่องปรุงจะระเหย รสชาดจะไม่อร่อย
5. ไม่ใส่น้ำ เพราะถ้าเติมน้ำลงไป จะทำให้ข้าวติดกะทะ

เช้าเซ็ง เย็นเปียก วันสงกรานต์

ตื่นมาวันนี้ตอนเที่ยงๆ แล้วก็คิดว่าจะอยู่บ้าน หรือจะออกไปข้างนอก
ถ้าไปข้างนอกก็เปียกแน่ เพราะเป็นวันสงกรานต์
แต่ถ้าอยู่บ้าน ร้านกับข้าวแถวบ้านปิดหมดทุกร้าน จะไม่มีกินเอา เพราะงั้นไปหาข้าวกินข้างนอกดีกว่า

วันนี้อยากกินข้าวผัดกระเพรามากๆ นั่งรถเมล์จากดาวคะนองไปลง ฟิวเจอร์ปาร์คบางแค
แล้วก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมป้ายนี้มีเราลงรถเมล์อยู่คนเดียว
พอลงไปถึงก็ปรากฏว่ามีรั้วกั้นห้ามเข้าไปในห้าง และป้ายใหญ่ๆว่า "ปิดปรับปรุง"



(1) ... ok ห้างปิด เราเข้าไม่ได้ก็ต้องไปต่อ ป้ายต่อไปก็คงเป็นเดอะมอลล์บางแค
ก็รอรถเมล์นานเหมือนกัน (รถเมล์ฟรี) แต่สุดท้ายก็ได้ขึ้น และไปลงที่เดอะมอลล์บางแค

จากนั้นก็เริ่มเดินหาข้าวผัดกระเพรา ปรากฏว่าเจออยู่ร้านเดียว
ก็ลองเข้าไปยืนรอสั่งอาหาร ระหว่างรอ มองไปที่โต๊ะในร้าน คนนั่งเต็มทุกโต๊ะ
ที่ยืนข้างๆก็มี 3 คน ถือกระดาษคนละใบ แต่ละใบก็มี 2-3 รายการ
ส่วนพ่อครั่วนั้นมีอยู่คนเดียว

(2) ... เมื่อคิดว่า โอ้โห ฉันจะต้องรออีกนานแค่ไหนเนี่ย ก็เลยเปลี่ยนใจ เดินออกมา
ไปหากินเอาร้านหน้าดีกว่า

เข้ามาในเดอะมอลบางแค เล็งร้าน KFC ไว้ สภาพเดียวกัน แถวยาว เต็ม 3 แถวเลย

(3) ... เอาวะ แถวยาว อดไว้ก่อนก็ได้ ไปเดินเล่นในห้างดีกว่า
เดินเสร็จออกจากห้าง ก็เดินกลับมาที่โลตัสสาขาบางแค

ตอนนี้กำลังชั่งใจละ ว่าจะเลือก KFC ข้าวยำไก่แซ็บ 65 บาท พร้อมแป๊บซี่
หรือจะเลือก ข้าวผัดกระเพรา 30 บาท ในศูนย์อาหารของโลตัส

รู้ทั้งรู้ว่าการกินข้าวผัดกระเพราตามศูนย์อาหาร รสชาดมักจะแย่เสมอ
แต่ด้วยความงก จึงวัดดวง สั่งไป 1 จาน

(4) ... กินเสร็จก็โอ้โหย มันไม่อร่อยอะ ต้องหาอะไรล้างปากหน่อยแล้ว
เอาว่ะ สั่ง KFC ล้างปากก็ได้ จากนั้นก็ตรงไปที่ร้าน KFC

หลังจากที่มองคนทางซ้ายสั่งอาหารอยู่ 5 นาที มองคนทางขวาสั่งอาหารอยู่ 5 นาที
พอเขาสั่งเสร็จ แทนที่เด็กในร้านจะถามเราว่า เราจะสั่งอะไร
เด็กกับบอกว่า แถวนั่นเครื่องเจ๊งค่ะ
แล้วเด็กก็หันไปถามคนใหม่ ที่เพิ่งมาทีหลังเราว่า จะสั่งอะไรดีค่ะ

(5) ... ง่ะ เราก็หงุดหงิดสิ ฉันยืนอยู่ตรงนี้ตั้งเป็นชาติ แกไม่ถามฉันว่าจะเอาอะไร
เห้อ ในเมื่อไม่สนใจฉัน ฉันก็ไปละ ไปหากินเอาร้านหน้าก็ได้

ผ่านบ่าย 3 ไปแล้ว ยังหงุดหงิดกับมื้อเช้าไม่หาย
นั่งรถเมล์มาลงเดอะมอลท่าพระ ตรงไปร้าน KFC
ช่องว่างอยู่พอดีก็เลยสั่งไป ข้าวยำไก่แซ้บ 1 จาน

(6) ... เฮ้อ กว่าจะได้กินของอร่อย ลำบากจริงๆฉัน
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอร่อยอะไรหรอก เพราะว่าเพิ่งอิ่มจากข้าวผัดกระเพราจานแรก
กินประชดชีวิตไปแค่นั้น

ขากลับก็นั่งรถสองแถวกลับบ้าน โดนสาดน้ำตลอดทาง
อืม ก็สงกรานต์นี่นะ จะไม่โดนสาดได้ไง
จะว่าไปก็สนุกดี คอยนั่งหลบ ไม่ให้โดนสาด แต่ก็เปียกหมดทั้งตัว

ก็สดชื่นดีเหมือนกัน หลังจากหน้าบูดมาทั้งวัน โดนน้ำสาดแล้วสดชื่นเลย

กลับถึงบ้าน หลังจากเช็ดมือถือ เช็ดบัตรประชาชนให้แห้ง
แล้วก็หยิบใส้กรอก 2 ไม้ ที่ซื้อจากเดอะมอลท่าพระออกมา
กางเกงก็ยังเปียก เสื้อก็ยังเปียก แต่อยากลองดูว่าอร่อยไหม

ว้าว ... นี่เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดของวันนี้เลย
คราวหน้าจะหาอะไรกิน ไปแค่เดอะมอล์ท่าพระก็พอแล้ว

วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

เที่ยวน้ำตกเอราวัณ




การเดินทาง
1. รถไฟฟรี สถานีธนบุรี ออก 7.45 ถึง 10.30
2. รถสองแถวไปบขส 10 บาท
3. รถบัสไปน้ำตกเอราวัณ 50 บาท รถออก 10.50 ถึง 12.30
4. ค่าผ่านประตู 40 บาท เดินจากชั้น 1 ไปชั้น 7 แล้วกลับลงมา กินเวลา 2 ช.ม.
5. รถบัสเที่ยวสุดท้ายออก 16.00 ค่ารถ 50 บาท
6. นั่งรถทัวว์จากบขส กลับ กรุงเทพ 95 บาท ถึงกรุงเทพ 3 ทุ่ม

รวม 250 บาท เฉพาะค่ารถ

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554

สถิติโลก ดาวคะนองไปรังสิต ค่ารถ 11 บาท

1. นั่งสาย 111 ไปลงท่าเรือคลองสาน (ค่ารถ 8 บาท)
2. นั่งเรือข้ามฟาก (3 บาท)
3. เดินจากสี่พระยาไปหัวลำโพง (0 บาท)
4. ไปที่ช่องขายตั๋วบอก "ขอตั๋วรถไฟฟรีไปรังสิต" (0 บาท)
5. ขึ้นไปนั่งรถไฟแล้วรอรถออก รถไฟใช้เวลาวิ่ง 1 ชม ถึงรังสิต (0 บาท)

สูตรส่วนตัวอ่านไพ่ยิปซี

เนื่องจากเป็นคนไม่ค่อยจะสมหวังในความรัก วันๆจึงไม่ค่อยได้ทำอะไรนอกจากดูดวง ... 5555

หลังจากที่เช็คมาหลายๆเจ้า มีอยู่เจ้านึงเป็นยิปซีรายสัปดาห์ซึ่งทำนายได้แม่นที่สุด

แต่การวิเคราะห์คำทำนายนั้น บางทีเราอ่านไพ่ แล้ววิเคราะห์เองในแบบของเราก็ได้

นี่เป็นสูตรส่วนตัวเวลาอ่านไพ่


1. ไพ่ queen cup ราชินีมองถ้วย
    ถ้าเราเป็นผู้ชาย หมายถึง มีผู้หญิงกำลังคิดถึงเราอยู่
    ถ้าเราเป็นผู้หญิง หมายถึง ตัวเราเองคิดถึงคนอื่นอยู่
    สำหรับไพ่ king cup ก็ตีความแบบเดียวกัน

2. ถ้าได้ไพ่ queen cup ในส่วนของ การงาน ก็หมายความว่า เราไม่ค่อยมีกะจิตกะใจทำงาน เอาแต่คิดถึงสาว

 

 

 


3. ไพ่ page of wand, nine cup
page of wand คือ มหาดเล็กถือไม้เท้าอันนึงแล้วก็จินตนาการ
nine cup คือ นั่งเฝ้าถ้วยอยู่ 9 ใบ แล้วก็จินตนาการเหมือนกัน

4. hurmit, hang man โดดเดี่ยวผู้น่ารัก

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

5. ไพ่ อัศวิน จะมี 3 รูป คือ
อัศวินถือถ้วย จะหันหน้าไปทางขวามือ
อัศวินถือคทา จะหันหน้าไปทางซ้ายมือ
อัศวินถือดาบ จะหันหน้าไปทางซ้ายมือ

ถ้าหันหน้าไปทางขวา หมายถึง สิ่งนั้นจะเข้ามาหาเรา
อัศวินถือถ้วยเลยแปลว่า จะมีคนถือถ้วยเข้ามาหาเรา

ถ้าหันหน้าไปทางซ้าย หมายถึง เราวิ่งหนีออกไปทางซ้าย
อัศวินขี่ม้าถือดาบ และอัศวินขี่ม้าถือคทา เลยหมายถึง เราวิ่งหนีออกไปทางซ้าย

6. 5 ถ้วย 8 ถ้วย 5 เหรียญ = แห้ว ผิดหวัง

7. 10 เหรียญ เจอคนรวย หรือรวยซะเอง

8. 10 ถ้วย วันรวมญาติ สุขสันต์กับพ่อแม่พี่น้อง

9. 2 ถ้วย, lover พบรัก

10. death, 10 swords, 4 swords = โชคร้าย

11. 10 ไม้เท้า, 8 ไม่เท้า = งานเยอะมาก 

12. tower = ทะเลาะกัน หรือโชคร้าย

ส่วนไพ่อื่นๆ ยังตีความไม่เป็น บางทีก็งงๆ ว่าไพ่ใบนี้ จะอ่านความหมายว่ายังไง
ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไปอีก ตอนนี้ยังเข้าใจไม่หมด

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

How to turn off shutter sound of KC550

Since I bought this phone, I can't turn off shutter sound.
It like LG not allow to do it.

but I found solution by accident.
this is the solution

1. go to mp3 player
2. make new playlist
3. add 2 music to playlist

IMPORTANT !
the length of each music should be very short like 20 seconds

4. set auto repeat to all
5. start playing music
6. press option, press minimized

now you are in normal screen, and music keep playing

7. turn volume lowest but still can hear music
8. after first music end the player will take about 2 seconds before play next music

this is important moment

turn on shutter of camera at this second

if this is success, the music will keep playing and your camera function will work at the same time

9. press shutter and you will see, no shutter sound annoy you.

Note :
in step 8 before turn on shutter, if you are quick enough , press volume to lowest until you can't hear, and turn on shutter, you will get perfect silent shutter sound of KC550

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

รีวิว Apacer AL460 เครื่องเล่น HD Player

หลังจากสำรวจตลาดอยู่พักใหญ่ ก็พบว่า มีอยู่ 3-4 รุ่น ที่ราคาต่ำกว่า 3000
1. measy a1 ราคา 1990 วันตรุษจีน หลังจากวันนั้น ราคาปรับเป็น 2590
2. noontec v7 ราคา 2590 วันตรุษจีน หลังจากวันนั้น ราคาปรับเป็น 3390
3. sonore ราคา 2590 ตอนนี้ก็ราคานี้อยู่ แต่ไม่รู้จักแบรนด์นี้มาก่อน เลยไม่กล้าซื้อ
4. apacer al460 เปิดตัว 2990 ตอนนี้ซื้อได้ในราคา 2790 ที่ห้างโลตัส

ดูจากแบรนด์และราคาแล้ว เลยตัดสินใจซื้อ Apacer al460

ก่อนซื้อ ได้ลอง LG BD550 ราคา 3990 ที่โลตัส
รู้สึกว่ารีโมทกดยาก เครื่องแฮ็ง ภาพแตก ก็เลยไม่ได้ซื้อ

หลังจากได้ใช้ Apacer al460 มา 1 อาทิตย์ ขอสรุปข้อดีข้อเสีย ดังนี้

ข้อดี
1. เล่น dvd, divx ชัดดี ฝีมือการอัพเสกลของเครื่องนี้ ยอดเยี่ยม
2. เล่น mkv ได้หมด 1080p ไม่มีกระตุก
3. เล่นไฟล์บลูเรย์ iso ได้
4. รีโมทกดง่าย
5. มีช่อง hdmi, component, av ครบถ้วน

ข้อเสีย
1. ฟัง DTS ไม่ได้
2. ดู You Tube ไม่ได้

ลูกเล่น
1. ต่อสายแลนได้ โหลดดูไฟล์จากแชร์โฟลเดอร์ในเน็ตเวริคได้
2. โหลดบิตได้

คำแนะนำ
1. เลือกโหมด 1080p ปิดฟังค์ชั่น 24Hz ให้รายละเอียดภาพดีขึ้น
2. เร่งความสว่างที่จอทีวี ช่วยให้ภาพสว่าง เนียน สวยขึ้น

ความประทับใจ
1. รีโมทกดง่าย ปรับสัดส่วนภาพ กดหยุด กดเล่น สะดวกดี
2. เล่น divx ภาพชัดดี
3. เล่น mkv ภาพไม่กระตุก ลื่นไหลดี
4. เวลาฟังเพลง ไม่มีลูกเล่น ไม่มีอะไรให้ปรับ แต่เสียงเพราะดี

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เข้าสู่โลก Hi-def

ผ่านมา 1 เดือน หลังจากซื้อ TV
อยากดู youtube ผ่านจอ TV เลยลองต่อเน็ตบุคกับ LCD TV
ปรับความละเอียดได้ 1024 x 768
ทดลองเปิดหนัง mkv 720p ปรากฏว่า ภาพชัดกว่า dvd เยอะเลย

ตอนนี้กำลังตัดสินใจ ว่าจะซื้อ blueray player หรือซื้อ harddisk player ดี
ถ้าเอา brand name หน่อย ก็มี apacer al460 แต่มีข้อติหลายข้อ เช่น
- ไม่มี DTS, ช่อง audio out เป็นช่องขนาด 3.5
- ช่อง usb อยู่ด้านหน้า เกะกะเวลาเสียบ external harddisk

ถ้าจะเอา brand จีน ก็มีแบบที่ใส่ฮาร์ดดิสไว้ภายในได้ แต่ก็จะมีพัดลมในเครื่องด้วย
เท่าที่ดู น่าจะมีปัญหาเรื่องความร้อน และเสียงพัดลมแน่

เจอ 2 รุ่น ใส่ฮาร์ดดิสภายในไม่ได้ แต่ราคา 2600 บาท
เท่าที่ดูเสปค และข้อมูลในเน็ต ก็น่าซื้อดี

ส่วน blueray player คงต้องขอผ่าน เพราะราคาต่ำสุด 4000 และเล่น mkv ได้ไม่ถึง 1080p

อีกประการ หลานที่บ้านอายุ 3 ขวบ ชอบเอามือจับแผ่น dvd เล่น
ถ้าซื้อ blueray player มา แผ่นคงเป็นรอยหมด แต่ถ้าซื้อเป็น harddisk player
แผ่น dvd จะเก็บไว้ในห้อง ที่ TV จะมีแต่เครื่องเล่นกับ รีโมท น่าจะช่วยให้แผ่นเก็บได้นานขึ้น

เอาไว้เก็บตังค์ได้แล้วจะไปซื้อ harddisk player มาเล่น
การเข้าสู่โลก Hi-def นี่ต้นทุนสูงจริงๆ ตั้งแต่ซื้อ TV ใหม่ , เครื่องเล่นใหม่ , ซื้อ external harddisk เพิ่ม

เพื่อภาพที่คมชัด เรายอม ....

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

รีวิว Panasonic L32C20

เพิ่งจะมี LCD TV เป็นของตัวเองเครื่องแรกเลยขอรีวิวหน่อย

รุ่นนี้เป็น Panasonic ขนาด 32 นิ้ว ความละเอียด 1366x720 เหตุผลที่ตัดสินใจเลือก Panasonic คือ
1. ภาพสวย
2. ประกัน 2 ปี
3. มีโหมดประหยัดไฟ กินไฟแค่ 50 วัตต์

พอซื้อมาแล้ว สิ่งที่ประทับใจมากๆก็คือภาพสวยนั่นแหล่ะ
ไม่ว่าจะเปิด VCD, DVD, TV, DivX ภาพชัดหมด
ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่อง Blueray หรือ HD TV ก็สัมผัสกับ Hidef ได้

โดยเซ็ตสัญญาณภาพ ที่ปล่อยออกมาจากเครื่องเล่น DVD
ให้เป็น PAL + Progressive Scan
จะได้ภาพขนาด 576p หรือ 720x576
ซึ่งเป็นความละเอียดสูงสุดที่เครื่อง DVD ธรรมดา จะปล่อยออกมาได้

ตัวอย่าง แผ่น DVD ที่ดูกับ TV เครื่องนี้แล้วภาพชัดมาก
MIIB, TREMORS, ThunderBirds