วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559

รีวิว Car MP3 Player 2018B


เหตุผลที่เลือกซื้อตัวนี้เพราะว่า ราคาถูกที่สุดและรับบลูทูธได้

สิ่งที่คาดหวังหลักๆ ก็คือ
1. เสียบ SD Card ฟังเพลงได้
2. เสียบ USB Flash drive ได้
3. เสียบสาย Aux ได้
4. เปิดเพลงจากมือถือ ผ่าน Bluetooth ให้ไปออกลำโพงได้
5. รับสาย พูดโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth ได้

และเครื่องนี้ก็ทำได้อย่างที่หวัง

การต่อเข้ากับรถยนต์
1. ผมซื้อสายแปลงยี่ห้อ Toyota แล้วก็มานั่งเชื่อมในบ้าน (ดูให้สีตรงกัน)
2. ถอดวิทยุตัวเก่าในรถออก แล้วเอาสายแปลงต่อกับสายเดิมของรถ แล้วก็เสียบกับวิทยุใหม่

ตอนทดสอบทีแรก ลำโพงซ้าย ขวา หน้า หลัง ยังไม่ถูกต้อง
เลยถอดสายแปลงออกมา แล้วใช้ไขควงเล็กๆดันสายออก (ด้านที่เสียบกับวิทยุ)
แล้วจับสายลำโพงสลับกันแล้วดันกลับเข้าไปใหม่
หลังจากสลับสายลำโพงถูกแล้ว เสียงลำโพง หน้า หลัง ซ้าย ขวา จะถูกต้อง


การตั้งนาฬิกา
1. กดปุ่ม clock บนรีโมท ค้างไว้ พอช่องชั่วโมงกระพริบ ให้กด Volume ขึ้นลง

การเล่นเพลง
1. กดปุ่มเลข 6 จะข้ามทีละ 10 เพลง ถ้ากดเลข 6 ค้าง จะข้ามไปโฟลเดอร์ถัดไป
2. กดปุ่มเลข 2 เพื่อฟัง 10 วินาทีแรกของแต่ละเพลง
3. กดปุ่ม Power เพื่อปิดเสียง ถ้ากดค้าง จะปิดเครื่อง

การปรับ EQ
1. กด EQ บนรีโมท
2. กดปุ่ม Loud เพื่อเร่งเสียงเบส

การปรับ Bass, Treble
1. ปรับ EQ เป็น Off
2. กดปุ่ม Volume บนเครื่องเล่น กดตรงกลาง ไม่ต้องหมุน
จะเข้าสู่การปรับค่า Bass
3. กด Volume อีกครั้ง จะปรับค่า Treble, Balance, Fader, Lound, EQ, Volume


ปัญหาลำโพงดังเกินไป
1. ปัญหานี้ อยู่ที่การปรับตั้งค่า Bass, Treble ของเราเอง ยิ่งตั้งค่าไว้สูง ลำโพงจะยิ่งดัง
แม้จะปรับ Volume เป็น 1 ลำโพงก็จะดังมาก
2. หากพบปัญหาลำโพงดังเกินไป ให้ปรับ Bass มาที่ 0, Treble มาที่ 0, Loud มาที่ Off
ลำโพงจะดังในระดับปรกติ
หรืออาจปรับให้ลำโพงหน้าดังกว่าลำโพงหลัง (Fader +2) ก็ช่วยได้
3. ถ้าเราปล่อยให้ลำโพงดังเกินไป คนที่นั่งหลังจะหนวกหู
แต่ถ้าเราปิด Loud เป็น Off เสียงเบสจะไม่ออก


การปรับเสียงให้ดีที่สุด
1. ปรับ Fader เป็น +2 เพื่อให้เสียงลำโพงหน้าดังกว่า ลำโพงหลัง
2. ปรับ Bass เป็น 0
3. ปรับ Treble เป็น +3
4. ปรับ Loud เป็น On

ลองนั่งหน้ารถ และหลังรถ แล้วลองปรับดูเองก็ได้ เพื่อให้ถูกใจนะครับ


บนเครื่องเล่น จะมี 3 ปุ่มหลัก คือ
MOD
Power
AMS

ปุ่ม Mod ใช้เปลี่ยนระหว่าง SD Card, USB, Bluetooth, Radio, Aux
ปุ่ม Power กด 1 ครั้งปิดเสียง กดค้างปิดเครื่อง
ปุ่ม AMS ใช้เพื่อเลือกเพลง

เช่น ใน SD Card มี 1000 เพลง
กด AMS แล้วหมุน Volume จะได้เลข 0-9
แล้วรอสักพัก ตัวเลขหลักที่ 2 จะกระพริบ ให้หมุน Volume อีกครั้ง
แล้วรอสักพัก ตัวเลขหลักที่ 3 จะกระพริบ ให้หมุน Volume อีกครั้ง
เช่นได้ตัวเลข 623 แล้วกดปุ่ม Volume ตรงกลาง เครื่องจะเล่นเพลงที่ 623 ทันที


จากที่รีวิวคร่าวๆ จะเห็นว่าเครื่องนี้ คุ้มเงินมากๆ ทำได้หลายอย่าง ปรับได้หลายอย่าง
แต่อีกเหตุผลสำคัญที่เครื่องนี้ดีกว่า วิทยุติดรถยนต์ ทั่วๆไป คือ

เครื่องนี้เล่นแผ่น DVD ไม่ได้

นั่นทำให้รีโมทกดง่าย ปุ่มไม่เยอะ
และบนตัวเครื่อง ปุ่มกดรับสาย วางสาย ก็ปุ่มใหญ่ กดง่ายดีด้วย

การใช้ Bluetooth
1. เลือกโหมด Bluetooth
2. เปิด bluetooth ในมือถือ แล้วกดค้นหา แล้วจับคู่กันให้เรียบร้อย

การฟังเพลง
1. หลังจากจับคู่แล้ว เปิดฟังเพลงในมือถือ เสียงจะออกลำโพง
เราสามารถกด next, prev บนวิทยุได้เลย มันจะสั่งมือถือให้เล่นเพลงถัดไปได้

การรับสาย
1. สมมุติว่าเราจับคู่เรียบร้อยแล้ว และเราปิดวิทยุไว้
เมื่อมีสายเข้า วิทยุจะเปิดเองทันที และเมื่อเรากดปุ่มรับสายบนวิทยุ เราจะพูดโทรศัพท์ได้เลย


ช่อง USB
1. ถ้าคุณมีกล้องติดรถยนต์ และคิดจะเสียบสายจากกล้องมาที่ช่อง USB ของวิทยุเครื่องนี้ ... อย่าทำ
ไฟที่ออกจากช่อง USB ไม่เพียงพอ ส่งผลให้กล้องรวน และทำให้ MicroSD เสีย
2. ช่อง USB เหมาะสำหรับเสียบ Flash Drive ฟังเพลง มากกว่า
3. ช่อง USB เสียบสายชาร์จมือถือได้

การฟังวิทยุ
1. ถ้าฟังวิทยุไม่ได้ แสดงว่าไม่ได้ต่อไฟเลี้ยงเสาอากาศ

ถ้าใครอยากลอง ก็หาซื้อใน Lazada หรือ Ebay เอานะครับ
เสียงอาจไม่ดีเท่าของแพงๆ แต่ก็ฟังเพลงเพราะ และใช้คุ้มดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น