Windows Update เป็นโปรแกรมอัพเดทส่วนประกอบของ Windows เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และอุดช่องโหว่จากแฮ็กเกอร์ที่คอยโจมตี
โปรแกรมหลักๆของ Microsoft ได้แก่ Windows, Office, Skype, Internet Explorer ฯลฯ
ระบบ Windows Update จะคอยตรวจสอบโปรแกรมของ Microsoft และอัพเดทเพื่ออุดช่องโหว่ไปเรื่อย
ตอนเราลง Windows ใหม่ อาจใช้เนื้อที่ 10 GB แต่เมื่อเปิด Windows Update ไว้ มันจะกินพื้นที่มากขึ้นๆ จนอาจจะมากถึง 50 GB
แล้วมันอุดช่องโหว่ให้เราจริงหรือ ?
คำตอบคือ จริง และ ไม่จริง
มีหลายๆช่องโหว่ที่ Windows Update ช่วยอุดให้จริงๆ แต่หลายช่องโหว่ Windows Update ก็ไม่รู้จัก
และบางครั้ง เรามีความจำเป็นต้องใช้เน็ต เพื่อดาวโหลด อัพโหลดไฟล์ ขนาดใหญ่
หากเรามีความจำเป็นเร่งด่วนต้องอัพโหลดไฟล์ ผ่านอินเตอร์เน็ตมือถือ (ซึ่งช้ามาก)
แล้ว Windows Update นึกคลึ้ม อยากจะอัพเดทในเวลาเดียวกัน
มันเอาแต่โหลดตัวอัพเดทของมัน โดยไม่สนใจว่าเราต้องใช้อินเตอร์เน็ตทำงาน
หรืออีกกรณีนึง เราจำเป็นต้องเปิดเครื่องทิ้งไว้ตอนกลางคืน เพื่อทำงานบางอย่าง
Windows Update ก็จะดาวโหลดไฟล์อัพเดท แล้วจะ restart เครื่อง (ภายใน 30 นาที)
ดังนั้น งานที่เราตั้งใจให้ทำงานตลอดทั้งคืน ก็เป็นอันยกเลิกไป เพราะเครื่อง restart เอง
ดังนั้น เหตุผลหลักๆที่เราควรปิด Windows Update คือ
1. มันแย่ง speed internet ของเรา
2. มันสั่ง shutdown ทั้งๆที่เราจำเป็นต้องเปิดเครื่องทิ้งไว้
3. มันไม่ได้อุดช่องโหว่ทั้งหมด
4. มันใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสมากขึ้นเรื่อยๆ
แล้วถ้าเราปิด Windows Update แล้ว ถ้าเครื่องเราถูกแฮ็กจะทำยังไง ?
1. ติดตั้งโปรแกรม Antivirus
2. ถ้าเครื่องผิดปรกติ ให้ล้างเครื่อง ลง Windows ใหม่เลย
เพิ่มเติม
สมัยก่อน ผมใช้ Windows 98 เวลาต่อเน็ต จะมีไอคอนปรากฏที่มุมล่างขวาของจอ
มันมีประโยชน์มาก มันคอยบอกสถานะ การดาวโหลด และอัพโหลด
สมมุติเราเปิดเครื่องทิ้งไว้ ไม่ได้ต่อเน็ต ไม่ได้เปิดโปรแกรมอะไรเลย
สถานะจะต้องเป็นว่างเปล่า
แต่ถ้ามี แฮ็กเกอร์ กำลังแฮ็คเครื่องเราอยู่ สถานะมันจะแสดงว่า มีการดาวโหลด และอัพโหลดเกิดขึ้น
ตั้งแต่ Windows 7 มาจนถึง Windows 8 ไอคอนนี้ถูกยกเลิก
ทำให้เวลาเราโดนแฮ็ค เราจะไม่สามารถสังเกตุจากสถานะ ดาวโหลด อัพโหลด ได้เลย
นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่เชื่อว่า Windows Update จะช่วยอะไร
ปิด หรือ เปิด มันก็ไม่ได้อุดช่องโหว่ช่องนี้ให้เรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น