อ่านในเน็ตแล้ว หลายคนบอกให้ดูแหวน
พอดูถึงตอนจบ มีข้อสังเกตุอย่างนึง
1. เสื้อผ้าที่เด็ก 2 คน ใส่ เป็นชุดเดิมที่พระเอกเห็นในฝันตลอดมา
2. ตำแหน่ง และวิธีเล่น ก็อยู่ที่เดิม (ผ่านไปหลายปี เจอกี่ที ก็ใส่ชุดเดิม เล่นที่เดิม)
แม้จะไม่เห็นแหวน ไม่เห็นเมียเก่า และทุกอย่างเป็นไปตามแผนเหมือนเป็นเรื่องจริง
แต่การเห็นลูก ใส่ชุดเดิม เล่นที่เดิม นี่มันแปลกๆอยู่
ถ้ายึดเหตุผลนี้เป็นตัวตัดสิน พระเอกยังอยู่ในความฝัน ....
วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558
วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558
มาซื้อสินค้าญี่ปุ่นกันเถอะ
ตอนเป็นวัยรุ่นเมื่อปี 2535 เวลาอยากซื้อซาวเบาท์ วิทยุ สเตอรีโอ เครื่องเสียง จะนึกถึงแต่ Sony Aiwa Panasonic
พอถึงปี 2540 เวลาอ่านโบวชัวของห้างค้าปลีก ในหน้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็จะเจอโฆษณาเครื่องเสียง Sony, Panasonic, JVC, Philip
หลังจากนั้น เริ่มมีเครื่องเสียงจีนเข้ามาขาย วางโชว์ประจำในห้างค้าปลีก
แล้วเครื่องเสียงญี่ปุ่นก็เริ่มหายไปจากห้าง
ทุกวันนี้ไม่มีเครื่องเสียงวางขายตามห้างค้าปลีกแล้ว แม้แต่ยี่ห้อ Sony
เด็กรุ่นใหม่ ที่เกิดหลังปี 2545 พวกเขาจะไม่รู้แล้วว่า เครื่องเสียงที่ดี ต้องแบรนญี่ปุ่นเท่านั้น
และแม้จะรู้ ก็หาที่ซื้อไม่ได้ เพราะเครื่องเสียงเหล่านั้น ปิดโรงงานไปหมดแล้ว
เทียบเครื่องเสียงจีนกับญึ่ปุ่นนั้น บอกได้เลยว่า คุณภาพต่างกันนิดเดียว
แต่ความประณีตในการผลิต ของญี่ปุ่นทำได้ดีกว่า
และที่สำคัญ ถึงจะเป็นสินค้าญี่ปุ่น แต่โรงงานอยู่ในไทย
นี่ยังไม่พูดถึงการบุกตลาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าเกาหลี ซึ่งยึดชั้นวางของห้างค้าปลีก 50%
โดนทั้งจีน ทั้งเกาหลีบุก ญี่ปุ่นเลยย่ำแย่
เห็นข่าวขาดทุนของ Sony, Panasonic, Toshiba มาตลอด 3 ปีนี้แล้วก็รู้สึกแย่
อยากให้พวกเขามีกำไร เพราะสินค้าพวกเขามีคุณภาพ และที่สำคัญ เขาเคยผลิตในประเทศไทย
ฝากไว้ตรงนี้จะครับ มีโอกาสซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า มองแบรนญี่ปุ่นก่อน ได้แก่
Sony, Panasonic, Toshiba, Sharp, Mitsubishi, Sanyo
เครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น ก็ได้แก่
ทีวี เครื่องเสียง เครื่องซักผ้า แอร์ กระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าว พัดลม เครื่องเล่นดีวีดี บลูเรย์ กล้องดิจิตอล
สินค้าของญึ่ปุ่นส่วนใหญ่ ผลิตในไทย
ถ้าเขาขายดี เขาก็เพิ่มโรงงาน คนไทยก็มีงานทำ
ถ้าเขาขายไม่ดี เขาก็ปิดโรงงาน ย้ายไปประเทศอื่น คนไทยก็ตกงาน
ส่วนแบรนเกาหลี ไม่ต้องห่วง พวกเขายึดตำแหน่งยอดขายสูงสุดของโลกไปแล้ว
ส่วนแบรนจีน พวกเขาก็มีต้นทุนถูก และวางขายทุกพื้นที่
ดังนั้น สินค้าคุณภาพดีของแบรนญี่ปุ่นกำลังจะถูกลืม
ถ้าเราไม่ช่วยกันซื้อ แล้วพวกเขาปิดตัว เราก็จะแย่ไปด้วยครับ
พอถึงปี 2540 เวลาอ่านโบวชัวของห้างค้าปลีก ในหน้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็จะเจอโฆษณาเครื่องเสียง Sony, Panasonic, JVC, Philip
หลังจากนั้น เริ่มมีเครื่องเสียงจีนเข้ามาขาย วางโชว์ประจำในห้างค้าปลีก
แล้วเครื่องเสียงญี่ปุ่นก็เริ่มหายไปจากห้าง
ทุกวันนี้ไม่มีเครื่องเสียงวางขายตามห้างค้าปลีกแล้ว แม้แต่ยี่ห้อ Sony
เด็กรุ่นใหม่ ที่เกิดหลังปี 2545 พวกเขาจะไม่รู้แล้วว่า เครื่องเสียงที่ดี ต้องแบรนญี่ปุ่นเท่านั้น
และแม้จะรู้ ก็หาที่ซื้อไม่ได้ เพราะเครื่องเสียงเหล่านั้น ปิดโรงงานไปหมดแล้ว
เทียบเครื่องเสียงจีนกับญึ่ปุ่นนั้น บอกได้เลยว่า คุณภาพต่างกันนิดเดียว
แต่ความประณีตในการผลิต ของญี่ปุ่นทำได้ดีกว่า
และที่สำคัญ ถึงจะเป็นสินค้าญี่ปุ่น แต่โรงงานอยู่ในไทย
นี่ยังไม่พูดถึงการบุกตลาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าเกาหลี ซึ่งยึดชั้นวางของห้างค้าปลีก 50%
โดนทั้งจีน ทั้งเกาหลีบุก ญี่ปุ่นเลยย่ำแย่
เห็นข่าวขาดทุนของ Sony, Panasonic, Toshiba มาตลอด 3 ปีนี้แล้วก็รู้สึกแย่
อยากให้พวกเขามีกำไร เพราะสินค้าพวกเขามีคุณภาพ และที่สำคัญ เขาเคยผลิตในประเทศไทย
ฝากไว้ตรงนี้จะครับ มีโอกาสซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า มองแบรนญี่ปุ่นก่อน ได้แก่
Sony, Panasonic, Toshiba, Sharp, Mitsubishi, Sanyo
เครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น ก็ได้แก่
ทีวี เครื่องเสียง เครื่องซักผ้า แอร์ กระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าว พัดลม เครื่องเล่นดีวีดี บลูเรย์ กล้องดิจิตอล
สินค้าของญึ่ปุ่นส่วนใหญ่ ผลิตในไทย
ถ้าเขาขายดี เขาก็เพิ่มโรงงาน คนไทยก็มีงานทำ
ถ้าเขาขายไม่ดี เขาก็ปิดโรงงาน ย้ายไปประเทศอื่น คนไทยก็ตกงาน
ส่วนแบรนเกาหลี ไม่ต้องห่วง พวกเขายึดตำแหน่งยอดขายสูงสุดของโลกไปแล้ว
ส่วนแบรนจีน พวกเขาก็มีต้นทุนถูก และวางขายทุกพื้นที่
ดังนั้น สินค้าคุณภาพดีของแบรนญี่ปุ่นกำลังจะถูกลืม
ถ้าเราไม่ช่วยกันซื้อ แล้วพวกเขาปิดตัว เราก็จะแย่ไปด้วยครับ
มาซื้อสินค้าญี่ปุ่นกันเถอะ
ตอนเป็นวัยรุ่นเมื่อปี 2535 เวลาอยากซื้อซาวเบาท์ วิทยุ สเตอรีโอ เครื่องเสียง จะนึกถึงแต่ Sony Aiwa Panasonic
พอถึงปี 2540 เวลาอ่านโบวชัวของห้างค้าปลีก ในหน้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็จะเจอโฆษณาเครื่องเสียง Sony, Panasonic, JVC, Philip
หลังจากนั้น เริ่มมีเครื่องเสียงจีนเข้ามาขาย วางโชว์ประจำในห้างค้าปลีก
แล้วเครื่องเสียงญี่ปุ่นก็เริ่มหายไปจากห้าง
ทุกวันนี้ไม่มีเครื่องเสียงวางขายตามห้างค้าปลีกแล้ว แม้แต่ยี่ห้อ Sony
เด็กรุ่นใหม่ ที่เกิดหลังปี 2545 พวกเขาจะไม่รู้แล้วว่า เครื่องเสียงที่ดี ต้องแบรนญี่ปุ่นเท่านั้น
และแม้จะรู้ ก็หาที่ซื้อไม่ได้ เพราะเครื่องเสียงเหล่านั้น ปิดโรงงานไปหมดแล้ว
เทียบเครื่องเสียงจีนกับญึ่ปุ่นนั้น บอกได้เลยว่า คุณภาพต่างกันนิดเดียว
แต่ความประณีตในการผลิต ของญี่ปุ่นทำได้ดีกว่า
และที่สำคัญ ถึงจะเป็นสินค้าญี่ปุ่น แต่โรงงานอยู่ในไทย
นี่ยังไม่พูดถึงการบุกตลาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าเกาหลี ซึ่งยึดชั้นวางของห้างค้าปลีก 50%
โดนทั้งจีน ทั้งเกาหลีบุก ญี่ปุ่นเลยย่ำแย่
เห็นข่าวขาดทุนของ Sony, Panasonic, Toshiba มาตลอด 3 ปีนี้แล้วก็รู้สึกแย่
อยากให้พวกเขามีกำไร เพราะสินค้าพวกเขามีคุณภาพ และที่สำคัญ เขาเคยผลิตในประเทศไทย
ฝากไว้ตรงนี้จะครับ มีโอกาสซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า มองแบรนญี่ปุ่นก่อน ได้แก่
Sony, Panasonic, Toshiba, Sharp, Mitsubishi, Sanyo
เครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น ก็ได้แก่
ทีวี เครื่องเสียง เครื่องซักผ้า แอร์ กระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าว พัดลม เครื่องเล่นดีวีดี บลูเรย์ กล้องดิจิตอล
สินค้าของญึ่ปุ่นส่วนใหญ่ ผลิตในไทย
ถ้าเขาขายดี เขาก็เพิ่มโรงงาน คนไทยก็มีงานทำ
ถ้าเขาขายไม่ดี เขาก็ปิดโรงงาน ย้ายไปประเทศอื่น คนไทยก็ตกงาน
ส่วนแบรนเกาหลี ไม่ต้องห่วง พวกเขายึดตำแหน่งยอดขายสูงสุดของโลกไปแล้ว
ส่วนแบรนจีน พวกเขาก็มีต้นทุนถูก และวางขายทุกพื้นที่
ดังนั้น สินค้าคุณภาพดีของแบรนญี่ปุ่นกำลังจะถูกลืม
ถ้าเราไม่ช่วยกันซื้อ แล้วพวกเขาปิดตัว เราก็จะแย่ไปด้วยครับ
พอถึงปี 2540 เวลาอ่านโบวชัวของห้างค้าปลีก ในหน้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็จะเจอโฆษณาเครื่องเสียง Sony, Panasonic, JVC, Philip
หลังจากนั้น เริ่มมีเครื่องเสียงจีนเข้ามาขาย วางโชว์ประจำในห้างค้าปลีก
แล้วเครื่องเสียงญี่ปุ่นก็เริ่มหายไปจากห้าง
ทุกวันนี้ไม่มีเครื่องเสียงวางขายตามห้างค้าปลีกแล้ว แม้แต่ยี่ห้อ Sony
เด็กรุ่นใหม่ ที่เกิดหลังปี 2545 พวกเขาจะไม่รู้แล้วว่า เครื่องเสียงที่ดี ต้องแบรนญี่ปุ่นเท่านั้น
และแม้จะรู้ ก็หาที่ซื้อไม่ได้ เพราะเครื่องเสียงเหล่านั้น ปิดโรงงานไปหมดแล้ว
เทียบเครื่องเสียงจีนกับญึ่ปุ่นนั้น บอกได้เลยว่า คุณภาพต่างกันนิดเดียว
แต่ความประณีตในการผลิต ของญี่ปุ่นทำได้ดีกว่า
และที่สำคัญ ถึงจะเป็นสินค้าญี่ปุ่น แต่โรงงานอยู่ในไทย
นี่ยังไม่พูดถึงการบุกตลาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าเกาหลี ซึ่งยึดชั้นวางของห้างค้าปลีก 50%
โดนทั้งจีน ทั้งเกาหลีบุก ญี่ปุ่นเลยย่ำแย่
เห็นข่าวขาดทุนของ Sony, Panasonic, Toshiba มาตลอด 3 ปีนี้แล้วก็รู้สึกแย่
อยากให้พวกเขามีกำไร เพราะสินค้าพวกเขามีคุณภาพ และที่สำคัญ เขาเคยผลิตในประเทศไทย
ฝากไว้ตรงนี้จะครับ มีโอกาสซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า มองแบรนญี่ปุ่นก่อน ได้แก่
Sony, Panasonic, Toshiba, Sharp, Mitsubishi, Sanyo
เครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น ก็ได้แก่
ทีวี เครื่องเสียง เครื่องซักผ้า แอร์ กระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าว พัดลม เครื่องเล่นดีวีดี บลูเรย์ กล้องดิจิตอล
สินค้าของญึ่ปุ่นส่วนใหญ่ ผลิตในไทย
ถ้าเขาขายดี เขาก็เพิ่มโรงงาน คนไทยก็มีงานทำ
ถ้าเขาขายไม่ดี เขาก็ปิดโรงงาน ย้ายไปประเทศอื่น คนไทยก็ตกงาน
ส่วนแบรนเกาหลี ไม่ต้องห่วง พวกเขายึดตำแหน่งยอดขายสูงสุดของโลกไปแล้ว
ส่วนแบรนจีน พวกเขาก็มีต้นทุนถูก และวางขายทุกพื้นที่
ดังนั้น สินค้าคุณภาพดีของแบรนญี่ปุ่นกำลังจะถูกลืม
ถ้าเราไม่ช่วยกันซื้อ แล้วพวกเขาปิดตัว เราก็จะแย่ไปด้วยครับ
วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558
ข้อเสียของ facebook และ google
ข้อเสียของ google คือ
1. เก็บประวัติการค้นหา
เวลาเราค้นหาข้อความ เช่นคำว่า ห้องพักเชียงคาน
พอเราหาข้อมูลเสร็จแล้ว เราไปเว็บผู้จัดการ อ่านข่าวอยู่ดีๆ พอถึงส่วนโฆษณา
เราจะเห็นโฆษณาเกี่ยวกับ ห้องพักเชียงคาน
แม้ว่าเราจะใช้มือถือ หรือ notebook เพื่อเข้าเว็บ
หากเว็บนั้นดึงโฆษณาจาก google
เราจะเห็นโฆษณาตรงกับคำค้นหาของเรา
จะว่าไปมันก็ดี โฆษณาตรงกับความสนใจของเรา
แต่มันละเมิดความเป็นส่วนตัวของเราไหม
ถึงตรงนี้ ก่อนใช้ google ผมต้องกด sign out ก่อน
ทั้งในมือถือและ notebook
ผมไม่รู้ว่า google จะเก็บประวัติการค้นหาไว้นานแค่ไหน
ถึงจะกด sign out แล้ว แต่ทุกครั้งที่เปิดบราวเซอร์ในมือถือ เพื่อเข้า google
บราวเซอร์จะพยายามให้เรา sing in เสมอ
นอกจากนี้ยังมี บราวเซอร์ chrome อีก ซึ่งเป็นของ google เอง
ไม่ต้องห่วงว่า คำค้นของคุณ ถูกบันทึกไว้หมดแล้ว
2. เก็บประวัติตำแหน่ง
ถ้าเปิด wifi กับ gps ตลอดเวลา
ประวัติตำแหน่งของเรา มีโอกาสถูกบันทึกได้
3. เก็บข้อมูลส่วนตัว
ผมเอามือถือแอนดรอยเก่าๆเครื่องนึง reset ล้างข้อมูลในเครื่องออกหมด
แล้วใส่ email เพื่อให้เข้า play store ได้
หลังจากนั้น ผมคลิกดู gallery ในมือถือ
ปรากฏว่า ทุกรูปใน blogspot ของผม ถูกดาวโหลดลงมือถือ
ทั้งๆที่ผมไม่ได้ติดตั้ง app blogspot
หรือใน play store ถ้าเราใช้ email เดิม
รายชื่อแอปที่เราเคยโหลด จะถูกบันทึกไว้
ไม่เชื่อ กดเข้าไปดูได้
ส่วนข้อเสียของ facebook ก็เหมือน google คือ
1. เก็บประวัติ
รายชื่อ รูปภาพ ความสัมพันธ์ สิ่งที่เราสนใจ
เก็บละเอียดยิ่งกว่าทะเบียนราษฏร์ซะอีก
แต่ก็นั่นละนะ เราเป็นคนพิมพ์เข้าไปเอง รูปเราก็อัพเข้าไปเอง
โดยปรกติ ประวัติพวกนี้ไม่ก่อความเดือดร้อนอะไร
แต่ลองคิดดู ถ้ามีคนเดา รหัสผ่านเราได้ แล้วเข้าไปอ่าน facebook แทนตัวเรา
เขาก็จะรู้หมดทุกอย่าง
ดังนั้น การเล่น facebook ที่ดี ไม่ควรใส่เรื่องส่วนตัวมากเกินไป
2. ลบบัญชีไม่ได้
ถ้าเราเบื่อๆ อยากลบข้อมูลที่เราเล่นมา facebook จะไม่ให้ลบ
แต่จะปิดบัญชีไว้ จนกว่าเราจะกลับมา login อีกครั้ง
ดังนั้น ประวัติ ข้อความ ต่างๆ จะคงอยู่ถาวร หรือถ้าอยากลบ ก็ต้องไล่คลิกทีละอัน
แล้วข้อเสียของ Windows ละ ก็เหมือน google กับ facebook นั่นละ
ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมอุปกรณ์ต่างๆ ถึงขยันเก็บข้อมูลของผู้ใช้จัง
ก็เลยขอทำนายว่า ในอนาคต คนจะหันไปใช้ search engine ที่ไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้
เล่น social network ที่ไม่ล้วงข้อมูล
รวมถึง notebook มือถือ ก็จะหันไปใช้ อุปกรณ์ที่ไม่ล้วงข้อมูล
ระหว่างที่อนาคตยังมาไม่ถึง ก็อย่าคิดอะไรมาก เขาให้เล่นอะไรก็เล่นไปเถอะ 55555
1. เก็บประวัติการค้นหา
เวลาเราค้นหาข้อความ เช่นคำว่า ห้องพักเชียงคาน
พอเราหาข้อมูลเสร็จแล้ว เราไปเว็บผู้จัดการ อ่านข่าวอยู่ดีๆ พอถึงส่วนโฆษณา
เราจะเห็นโฆษณาเกี่ยวกับ ห้องพักเชียงคาน
แม้ว่าเราจะใช้มือถือ หรือ notebook เพื่อเข้าเว็บ
หากเว็บนั้นดึงโฆษณาจาก google
เราจะเห็นโฆษณาตรงกับคำค้นหาของเรา
จะว่าไปมันก็ดี โฆษณาตรงกับความสนใจของเรา
แต่มันละเมิดความเป็นส่วนตัวของเราไหม
ถึงตรงนี้ ก่อนใช้ google ผมต้องกด sign out ก่อน
ทั้งในมือถือและ notebook
ผมไม่รู้ว่า google จะเก็บประวัติการค้นหาไว้นานแค่ไหน
ถึงจะกด sign out แล้ว แต่ทุกครั้งที่เปิดบราวเซอร์ในมือถือ เพื่อเข้า google
บราวเซอร์จะพยายามให้เรา sing in เสมอ
นอกจากนี้ยังมี บราวเซอร์ chrome อีก ซึ่งเป็นของ google เอง
ไม่ต้องห่วงว่า คำค้นของคุณ ถูกบันทึกไว้หมดแล้ว
2. เก็บประวัติตำแหน่ง
ถ้าเปิด wifi กับ gps ตลอดเวลา
ประวัติตำแหน่งของเรา มีโอกาสถูกบันทึกได้
3. เก็บข้อมูลส่วนตัว
ผมเอามือถือแอนดรอยเก่าๆเครื่องนึง reset ล้างข้อมูลในเครื่องออกหมด
แล้วใส่ email เพื่อให้เข้า play store ได้
หลังจากนั้น ผมคลิกดู gallery ในมือถือ
ปรากฏว่า ทุกรูปใน blogspot ของผม ถูกดาวโหลดลงมือถือ
ทั้งๆที่ผมไม่ได้ติดตั้ง app blogspot
หรือใน play store ถ้าเราใช้ email เดิม
รายชื่อแอปที่เราเคยโหลด จะถูกบันทึกไว้
ไม่เชื่อ กดเข้าไปดูได้
ส่วนข้อเสียของ facebook ก็เหมือน google คือ
1. เก็บประวัติ
รายชื่อ รูปภาพ ความสัมพันธ์ สิ่งที่เราสนใจ
เก็บละเอียดยิ่งกว่าทะเบียนราษฏร์ซะอีก
แต่ก็นั่นละนะ เราเป็นคนพิมพ์เข้าไปเอง รูปเราก็อัพเข้าไปเอง
โดยปรกติ ประวัติพวกนี้ไม่ก่อความเดือดร้อนอะไร
แต่ลองคิดดู ถ้ามีคนเดา รหัสผ่านเราได้ แล้วเข้าไปอ่าน facebook แทนตัวเรา
เขาก็จะรู้หมดทุกอย่าง
ดังนั้น การเล่น facebook ที่ดี ไม่ควรใส่เรื่องส่วนตัวมากเกินไป
2. ลบบัญชีไม่ได้
ถ้าเราเบื่อๆ อยากลบข้อมูลที่เราเล่นมา facebook จะไม่ให้ลบ
แต่จะปิดบัญชีไว้ จนกว่าเราจะกลับมา login อีกครั้ง
ดังนั้น ประวัติ ข้อความ ต่างๆ จะคงอยู่ถาวร หรือถ้าอยากลบ ก็ต้องไล่คลิกทีละอัน
แล้วข้อเสียของ Windows ละ ก็เหมือน google กับ facebook นั่นละ
ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมอุปกรณ์ต่างๆ ถึงขยันเก็บข้อมูลของผู้ใช้จัง
ก็เลยขอทำนายว่า ในอนาคต คนจะหันไปใช้ search engine ที่ไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้
เล่น social network ที่ไม่ล้วงข้อมูล
รวมถึง notebook มือถือ ก็จะหันไปใช้ อุปกรณ์ที่ไม่ล้วงข้อมูล
ระหว่างที่อนาคตยังมาไม่ถึง ก็อย่าคิดอะไรมาก เขาให้เล่นอะไรก็เล่นไปเถอะ 55555
วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558
รีวิว Nokia 130
เนื่องจากมือถือ Happy ที่ซื้อไปตัวก่อน มีข้อเสียที่แบตหมดเร็ว แสตนบายได้ไม่เกิน 3 วัน
จึงจำเป็นต้องซื้อมือถือใหม่
ตัวเลือกมี Nokia 130, Samsung Hero และ I-mobile Hitz 12
เหตุผลที่ไม่เลือก Samsung Hero มี 2 ข้อ
1. ไม่มีไฟฉาย
2. ช่องเสียบสายชาร์ต ไม่ใช่ micro USB
เหตุผลที่ไม่เลือก I-mobile เพราะว่า คราวนี้อยากได้มือถือที่แบตอึดจริงๆ
(เว็บ I-mobile บอกว่ารอสายได้ 130 ช.ม. ส่วน Nokia รอสายได้ 26 วัน)
เอาละ หลังจากซื้อ Nokia 130 มาลองใช้แล้ว สรุปได้ดังนี้
ข้อดี
1. เสียงคุยดังดี
2. เสียงริงโทนดัง
3. ฟังเพลง เสียงดี
4. มีไฟฉาย
5. ขนาดเล็ก พกสะดวก
6. เมนูลัดต่างๆ กดง่ายดี
7. แถมหูฟัง
ข้อเสีย
1. ไม่มีความจำภายใน เก็บภาพ หรือเพลงไม่ได้ ต้องใส่ SD Card เท่านั้น
2. Wallpaper มีแค่ 3 รูป และเปลี่ยนไม่ได้
3. ดูรูปไม่ได้
4. ไม่มีกล้อง
5. ลงเกม Java ไม่ได้
6. เข้าเน็ตไม่ได้ แชร์เน็ตไม่ได้ และไม่มี Browser
7. หน้าจอสีซีด ไม่สวย
ในฐานะเครื่องให้คนแก่ใช้ ขอแค่แบตอึด เสียงดัง ฟังชัด ก็ ok แล้ว
ส่วนเรื่อง ไม่มีกล้อง ไม่มีรูป ลงเกมไม่ได้ ก็ช่างมันเถอะ คนแก่ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว
แต่ที่ประทับใจมากๆ นอกจากเรื่องแบตอึด ก็คงเป็นเรื่องเพลง เพราะเสียงดี
เทียบกับมือถือ Happy เครื่องเก่าแล้ว มือถือ Happy ดีกว่าหมดทุกด้าน
ยกเว้น ฟังเพลง และแบตอึด
จึงจำเป็นต้องซื้อมือถือใหม่
ตัวเลือกมี Nokia 130, Samsung Hero และ I-mobile Hitz 12
เหตุผลที่ไม่เลือก Samsung Hero มี 2 ข้อ
1. ไม่มีไฟฉาย
2. ช่องเสียบสายชาร์ต ไม่ใช่ micro USB
เหตุผลที่ไม่เลือก I-mobile เพราะว่า คราวนี้อยากได้มือถือที่แบตอึดจริงๆ
(เว็บ I-mobile บอกว่ารอสายได้ 130 ช.ม. ส่วน Nokia รอสายได้ 26 วัน)
เอาละ หลังจากซื้อ Nokia 130 มาลองใช้แล้ว สรุปได้ดังนี้
ข้อดี
1. เสียงคุยดังดี
2. เสียงริงโทนดัง
3. ฟังเพลง เสียงดี
4. มีไฟฉาย
5. ขนาดเล็ก พกสะดวก
6. เมนูลัดต่างๆ กดง่ายดี
7. แถมหูฟัง
ข้อเสีย
1. ไม่มีความจำภายใน เก็บภาพ หรือเพลงไม่ได้ ต้องใส่ SD Card เท่านั้น
2. Wallpaper มีแค่ 3 รูป และเปลี่ยนไม่ได้
3. ดูรูปไม่ได้
4. ไม่มีกล้อง
5. ลงเกม Java ไม่ได้
6. เข้าเน็ตไม่ได้ แชร์เน็ตไม่ได้ และไม่มี Browser
7. หน้าจอสีซีด ไม่สวย
ในฐานะเครื่องให้คนแก่ใช้ ขอแค่แบตอึด เสียงดัง ฟังชัด ก็ ok แล้ว
ส่วนเรื่อง ไม่มีกล้อง ไม่มีรูป ลงเกมไม่ได้ ก็ช่างมันเถอะ คนแก่ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว
แต่ที่ประทับใจมากๆ นอกจากเรื่องแบตอึด ก็คงเป็นเรื่องเพลง เพราะเสียงดี
เทียบกับมือถือ Happy เครื่องเก่าแล้ว มือถือ Happy ดีกว่าหมดทุกด้าน
ยกเว้น ฟังเพลง และแบตอึด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)