HD Player คืออะไร ?
อันนี้ต้องเล่าเรื่องยาวเลยครับ
1990 : เราดูหนังด้วยเครื่องเล่นวีดีโอเทป VHS
1997 : เราดูหนังด้วยเครื่องเล่น VCD
2000 : เราดูหนังด้วยเครื่องเล่น DVD
2005 : ทั่วโลกเริ่มใช้เครื่องเล่น Bluray แต่เมืองไทย ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก เนื่องจากราคาแพง
2010 : ทั่วโลกเริ่มใช้ HD Player เพื่อดูหนัง VCD, DVD, Bluray ผ่าน External Harddisk
ในเมืองไทย คนรักหนังเริ่มนิยมใช้ HD Player เพราะราคาถูกกว่าเครื่อง Bluray
2015 : คนไทยได้รับแจกกล่องทีวีดิจิตอล ซึ่งสามารถใช้เป็น HD Player ได้ด้วย
ถ้าเราจะใช้กล่องทีวีดิจิตอล ดูหนังแบบ HD Player ต้องมีอะไรบ้าง ?
มี 2 ทางเลือกครับ
1. ซื้อ External Harddisk (ราคาปรกติ 1600 บาท ความจุ 500 GB)
2. ซื้อ USB Flash Drive (ราคาปรกติ 150 บาท ความจุ 8 GB)
และต้องมีคอมพิวเตอร์ เอาไว้ copy หนังลง USB Flash Drive ด้วย
หลังจากเรามี USB Flash Drive แล้ว เราจะหาหนังจากที่ไหนมาดู ?
เท่าที่ผมรู้ ในเมืองไทย ยังไม่มีเจ้าของหนังรายใด จำหน่ายหนังเป็นไฟล์ MKV, MP4
ดังนั้น การจะหาหนังในรูปแบบ MKV, MP4 จึงมีแต่วิธีที่ลิขสิทธิ์ไม่ถูกต้อง
วิธีที่ 1 โหลดบิท
ถึงตรงนี้ ถ้าบ้านคุณมี Hi-Speed Internet
ลองเข้า google แล้วค้นหาคำว่า Bittorrent
แล้วไปศึกษาวิธีโหลดบิตเอาเองนะครับ
แต่มีคำเตือนนิดนึง
1. การโหลดบิต ไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นสิ่งผิดกฏหมาย
2. เว็บต่างประเทศที่ให้โหลดบิต มักจะแจกไวรัส เจาะระบบคอมพิวเตอร์ของคุณ ด้วย
วิธีที่ 2 โหลด Youtube
ใน Windows 7 หาโปรแกรมชื่อ YTD หรือ Youtube Downloader
พอติดตั้งโปรแกรมแล้ว ก็เข้าเว็บ Youtube
จะดูหนัง ดูเพลง ดูข่าว หรืออะไรใน Youtube แค่ copy link มาใส่ในโปรแกรม Youtube Downloader
มันก็จะดาวโหลดเป็นไฟล์ MP4 ให้เราเอง
จากนั้น เราก็แค่ copy ไฟล์ mp4 ลง flash drive แล้วเอาไปเสียบกับ กล่องทีวีดิจิตอล
ก็จะดูหนังที่เราบันทึกไว้ได้
ฝากถึงเจ้าของลิขสิทธิ์นะครับ
1. เมืองไทย ทั่วประเทศ มีกล่องทีวีดิจิตอลเป็นล้านเครื่อง นอกจากดูทีวี คนส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ช่อง USB มีไว้ทำอะไร
2. สมมติคุณอนุญาติให้ร้านอินเตอร์เน็ตทั่วประเทศ copy ไฟล์หนังจาก server ของคุณลง flash drive
ร้านอินเตอร์เน็ตเหล่านั้น จะกลายเป็นร้านจำหน่ายหนังให้คุณ ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ และทุกหมู่บ้าน
3. ไม่ต้องกลัวว่าถ้าขายหนังแบบ MP4 แล้ว คนจะ copy จนไม่ซื้อหนังลิขสิทธิ์
ไม่จำเป็นต้องมีระบบป้องกันอะไร ยอมให้เขา copy ไปเถอะ
ขอแค่เขารู้ว่า ถ้าจะหาหนังไปร้านเน็ต จ่ายตังเรื่องละ 20 บาท เอา flash drive มาเสียบกล่องดิจิตอล แล้วดูหนังได้
ถ้าคนทั่วไปนิยมทำแบบนี้ คุณจะขายหนังได้เงินมากมาย
คุณก็แค่ให้ร้านเน็ต สมัครสมาชิก แล้วเสียค่าโหลดเรื่องละ 100 บาท
แล้วให้อิสระที่เขาจะ copy ขาย เรื่องละ 20 บาท
และเวลาคุณจะไปตรวจสอบลิขสิทธิ์ คุณก็แค่ดูชื่อร้าน แล้วดูว่าร้านนั้นมีสิทธิ์ copy เรื่องอะไรบ้าง
อันนี้เป็นแนวคิด ถ้าเจ้าของหนัง ตามทันเทคโนโลยี คุณจะพบว่ามีคนไทยอีกมากมาย ที่รอจ่ายเงินซื้อหนังแบบลิขสิทธิ์ถูกต้องครับ