1. สำรวจเป็นนิสัย - เช่น ทุกครั้งที่มีโอกาสเดินห้าง ก็ควรเดินดูสินค้าชนิดต่างๆ ที่เราสนใจ แล้วจำราคาไว้
อย่างราคาที่ผมจำได้ตอนนี้ก็คือ LCD TV 32 นิ้ว 9500 บาท มี 2 ยี่ห้อ คือ โตชิบ้า กับ ชาร์ป
บลูเรย์เพลเยอร์ราคา 2990 บาท มี 2 ยี่ห้อคือ Samsung กับ LG
2. เมื่อเราจำราคาสินค้าได้แล้ว เราก็ไปห้างต่อไป ทำแบบนี้ ทุกเดือน ทุกสัปดาห์ ทุกครั้งที่มีโอกาสเดินห้าง
ห้างหลักๆ ที่มักจะมีของลดราคา คือ BigC, Lotus ห้างที่ลดราคานานๆครั้ง แต่ก็ยังน่าสำรวจราคา คือ Power Buy, Power Mall, Macro
3. ลองเครื่อง - เราเห็นของถูกก็จริง แต่การได้ลองใช้ดูว่าตรงกับความต้องการของเราไหมก็สำคัญ
สำหรับ TV, เครื่องเสียง ผมจะไม่ลอง เพราะเกรงใจพนักงานขาย
แต่มือถือ หลายๆห้าง มีเครื่องให้ลอง ผมชอบไปกดๆดู ว่าเป็นยังไง
บางทีก็ลองถ่ายภาพ แล้วส่งผ่าน bluetooth เข้ามือถือ เอาภาพที่ถ่ายได้มาเปิดดูที่บ้านว่า กล้องชัดไหม
4. เทศกาล - ช่วงเวลาที่เครื่องใช้ไฟฟ้ามักจะลดราคา คือ ก่อนสงกรานต์, ตรุษจีน 1 สัปดาห์ และเดือน พ.ย. - ธ.ค.
5. การลดราคาของห้างเหล่านี้จะมี 2 แบบ
- 1. สินค้าใหม่ ลดราคา
- 2. ตัวโชว์ ลดราคา
ปรกติเมื่อสินค้าลดราคา ถ้าเราซื้อก่อน เราจะได้ของใหม่แกะกล่อง
แต่ถ้าของใหม่หมด แล้วมีคนอยากซื้อ ทางห้างจะขายตัวโชว์ให้ ซึ่งก็ไม่ดีเท่าของใหม่
ห้างเหล่านี้มักจะมีนโยบาย คืนเงินใน 7 วัน ถ้าสินค้ามีตำหนิ
คนที่ซื้อใหม่แกะกล่องไป บางคนเจอสินค้ามีตำหนิ ก็จะมาขอเงินคืน สุดท้ายเครื่องนั้นจะกลายเป็นตัวโชว์
ถ้าเราโชคร้ายไปซื้อมา ก็จะได้ของมีตำหนิ
บางห้างนิสัยดี บอกเราด้วยว่า ตัวโชว์ มีตำหนิตรงไหน
แต่บางห้างก็นิสัยไม่ดี ไม่บอกเรา แล้วยังติดป้ายว่า ซื้อแล้วไม่รับเปลี่ยนหรือคืน
ดังนั้น หลีกเลี่ยงตัวโชว์ดีที่สุด ไม่ว่ามันจะถูกแค่ไหน ซื้อของใหม่แกะกล่อง มั่นใจกว่าเยอะ
6. ซื้อ inter brand เท่านั้น - inter brand ก็คือ brand ญี่ปุ่น, เกาหลี, usa, ยุโรป
เพราะว่าสินค้ากลุ่มนี้ มีชื่อเสียงค้ำคอ การผลิตสินค้าห่วยๆ จะทำให้เสียชื่อเสียงไปทั่วโลก
ในขณะที่สินค้า noname ถ้าสินค้าห่วย พวกเขาก็จะแกะป้ายออก ติดยี่ห้อใหม่เข้าไป
แล้วก็เอาของห่วยๆ มาหลอกขายได้อีก
7. ไม่ยึดติดยี่ห้อ - เราสนใจ inter brand ก็จริง แต่เราไม่ยึดติดว่าต้องเป็นแบรนด์ไหน
เพราะการแข่งขัน ทำให้แต่ละแบรนด์ลดราคาแข่งกัน
เมื่อเราเจอสินค้าที่ คุณภาพ ราคา ตรงใจแล้วก็สอยได้เลย
หากมัวแต่รอแบรนด์ที่เราชอบ อาจต้องรอ 2-5 ปี กว่าจะได้ซื้อ
8. การรับประกัน - เลือกห้างที่มีการรับประกัน คืนเงินใน 7 วัน
การซื้อตามงานวัด คุณจะไม่ได้การรับประกันแบบนี้
หลังจากที่เราจำราคา เช็คข้อมูลสินค้า จนมั่นใจแล้วว่าจะซื้อตัวไหน เราก็รอให้มันลดราคา
เมื่อมันลดราคา สิ่งที่เราต้องใส่ใจก็คือ
9. โปรทดลอง - บางครั้งสินค้าลดราคา เขียนว่า ลดวันที่ 1 -30 แต่หลังจากวันที่ 3 สินค้าก็ปรับราคาขึ้น
สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ การลดราคาวันที่ 1-3 พวกเขาจะประเมินยอดขาย ว่าลดแล้วขายได้เยอะไหม
หากขายได้เยอะ ก็จะลดต่อ แต่ถ้าลดแล้วไม่มีใครซื้อเลย ก็ขายราคาปรกติดีกว่า
เพราะงั้น เมื่อเราเห็นสินค้าลดราคา อย่านอนใจว่ามันจะลดหลายวัน มันอาจจะทดลองราคาแค่ 1-3 วันก็ได้
เมื่อได้ราคาที่เราถูกใจแล้วก็สอยโลด
ยังมีเทคนิคอีกมากมาย ในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าลดราคา
แต่กฏสำคัญคือข้อ 1 คุณต้องสำรวจบ่อยๆ และจำราคาได้ คุณถึงจะได้ของดีราคาถูกจริง
วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555
หลักในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าลดราคา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)